ดาวโจนส์ปิดร่วง 344.57 จุด กังวลศก.ชะลอตัว-ผลประกอบการอ่อนแอ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดในวันอังคาร (25 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ซึ่งรวมถึงยูไนเต็ด พาร์เซล เซอร์วิส (ยูพีเอส) รายงานผลประกอบการที่อ่อนแอ นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพในภาคธนาคาร หลังมีรายงานว่าลูกค้าแห่ถอนเงินจำนวนมากออกจากธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,530.83 จุด ร่วงลง 344.57 จุด หรือ -1.02%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,071.63 จุด ลดลง 65.41 จุด หรือ -1.58% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,799.16 จุด ร่วงลง 238.05 จุด หรือ -1.98%

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P500 ร่วงลงเป็นเปอร์เซ็นต์ในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงเป็นเปอร์เซ็นต์ในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค.

หุ้นยูพีเอส ซึ่งเป็นบริษัทจัดส่งพัสดุภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 2.20 ดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.21 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ 2.293 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.301 หมื่นล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ยูพีเอสยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีงบการเงิน 2566 ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า กำไรและรายได้ที่ต่ำกว่าคาดของยูพีเอสเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

ราคาหุ้นยูพีเอสร่วงลง 10% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2549 และได้ฉุดดัชนีหุ้นกลุ่มการขนส่งที่คำนวณในดัชนีดาวโจนส์ (Dow Jones Transport Average Index) ร่วงลง 3.6% ซึ่งเป็นการดิ่งลงในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2565

ขณะที่ราคาหุ้นบริษัทขนส่งรายอื่น ๆ ดิ่งลงเช่นกัน โดยหุ้นเฟดเอ็กซ์ ร่วงลง 2.88% หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิ้งส์ ร่วงลง 3.28% หุ้นไรเดอร์ ซิสเต็มส์ ดิ่งลง 2.52%

ดัชนี KBW Regional Banking Index ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารระดับภูมิภาค ร่วงลง 3.9% หลังจากราคาหุ้นธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ (FRB) ทรุดตัวลง 49% ภายหลังจาก FRB เปิดเผยว่า ยอดเงินฝากลดลง 40.8% สู่ระดับ 1.045 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1/2566 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.450 แสนล้านดอลลาร์

หุ้นไมโครซอฟท์ ดิ่งลง 2.25% และหุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 2% ก่อนที่บริษัทเทคโนโลยีทั้ง 2 แห่งจะเปิดเผยผลประกอบการ

หุ้น 3M ปรับตัวลง 0.66% หลังบริษัทประกาศปลดพนักงานอีก 6,000 ตำแหน่งทั่วโลกเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปลดพนักงานครั้งที่ 2 หลังจากที่บริษัทประกาศเลิกจ้างพนักงาน 2,500 ตำแหน่งในช่วงต้นปีนี้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค.2565 ระบุว่า 3M มีพนักงานทั่วโลกจำนวน 92,000 ราย

ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานของ Conference Board ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 101.3 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 104.0 ในเดือนมี.ค. โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค, ความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและในช่วง 6 เดือนข้างหน้า รวมทั้งสถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2566 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค. โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพราะสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 เม.ย. 66)

Tags: , , ,