บริษัทไฟเซอร์ อิงค์เปิดเผยในวันศุกร์ (29 เม.ย.) ว่า จากการทดลองล่าสุดพบว่า ยาแพกซ์โลวิด (Paxlovid) ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสชนิดรับประทานนั้น ไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับผู้ใช้ยาที่อาศัยอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อโควิด
การทดลองดังกล่าวมีผู้ใหญ่ 3,000 คนเข้าร่วม โดยอยู่ในครัวเรือนร่วมกับผู้ที่แสดงอาการป่วยและเคยติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งผู้เข้าร่วมทดลองจะได้รับยาแพกซ์โลวิดเป็นเวลา 5 หรือ 10 วัน หรือได้รับยาหลอก
ผู้ที่ได้รับยาแพกซ์โลวิดเป็นเวลา 5 วัน และ 10 วันนั้น มีโอกาสติดโควิดน้อยกว่าผู้ที่ได้รับยาหลอกราว 32% และ 37% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ผลการทดลองดังกล่าวไม่ได้มีนัยสำคัญทางสถิติ
ไฟเซอร์ระบุว่า ข้อมูลด้านความปลอดภัยในการทดลองนี้ยังคงสอดคล้องกับการศึกษาก่อนหน้านี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ยาแพกซ์โลวิดนั้นมีประสิทธิภาพเกือบ 90% ในการป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือการเสียชีวิตสำหรับผู้ป่วยโควิดที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเจ็บป่วยอย่างรุนแรงเมื่อรับประทานยาแพกซ์โลวิด เป็นเวลา 5 วันหลังจากเริ่มมีอาการป่วยไม่นาน
“ขณะที่เราผิดหวังกับผลการศึกษาเฉพาะในครั้งนี้ แต่ผลลัพธ์เหล่านี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อข้อมูลประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่แข็งแกร่งที่เราได้รับในการทดลองก่อนหน้านี้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19”
นายอัลเบิร์ต บอร์ลา ซีอีโอของไฟเซอร์ระบุในแถลงการณ์
ทั้งนี้ ไฟเซอร์เปิดเผยว่า ยาแพกซ์โลวิดซึ่งประกอบด้วยยาต้านไวรัสสองชนิดได้รับการอนุมัติหรืออนุญาตให้ใช้แบบมีเงื่อนไขหรือในกรณีฉุกเฉินในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีความเสี่ยงสูง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 เม.ย. 65)
Tags: COVID-19, Paxlovid, ยาต้านโควิด, แพกซ์โลวิด, โควิด-19, ไฟเซอร์