ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐกล่าวแสดงความเห็นว่า ภาคธุรกิจโดยรวมของสหรัฐได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยจากกรณีที่แฮกเกอร์ในรัสเซียได้ทำการโจมตีทางไซเบอร์กับบริษัทจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) อย่างน้อย 200 แห่งในสหรัฐเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา
ปธน.ไบเดนได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ว่า ทีมงานด้านความปลอดภัยของทำเนียบขาวได้รายงานให้เขาทราบเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าวว่า Kaseya ซึ่งเป็นบริษัทซัพพลายเออร์ซอฟต์แวร์ VSA ได้ถูกโจมตีทางไซเบอร์
“เมื่อพิจารณาจากภาพรวมแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อภาคธุรกิจสหรัฐเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ดี เรากำลังรวบรวมข้อมูล และผมจะพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้งในไม่กี่วันข้างหน้า” ปธน.ไบเดนกล่าว
หนังสือพิมพ์เดลี่เมล์รายงานเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ว่า แฮกเกอร์ในรัสเซียได้ทำการโจมตีทางไซเบอร์กับบริษัทไอทีอย่างน้อย 200 แห่งในสหรัฐ และเรียกร้องค่าไถ่สูงถึง 5 ล้านดอลลาร์
กลุ่ม REvil ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์เรียกค่าไถ่รายใหญ่ที่พูดภาษารัสเซียและเชื่อมโยงกับเหตุการณ์แฮ็กบริษัทแปรรูปเนื้อสัตว์ JBS นั้น คาดว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีดังกล่าว แม้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐได้ขู่ว่าจะทำการตอบโต้ในการพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา หากบริษัทของสหรัฐยังคงถูกแฮกระบบต่อไป
รายงานล่าสุดระบุว่า กลุ่ม REvil โพสต์ข้อความผ่านทางเว็บมืดเพื่อเรียกร้องค่าไถ่เป็นจำนวน 70 ล้านดอลลาร์เพื่อแลกกับการกู้ข้อมูลที่ถูกโจรกรรมไป โดยข้อความดังกล่าวเผยแพร่ผ่านทางบล็อกที่ใช้โดยกลุ่ม REvil ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มแฮกเกอร์เรียกค่าไถ่รายใหญ่ที่สุดของโลกที่เชื่อมโยงกับรัสเซีย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ค. 64)
Tags: แฮกเกอร์, โจ ไบเดน, โจมตีทางไซเบอร์