คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐเรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติงบประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือผู้ปลูกข้าวสาลีในสหรัฐให้สามารถเพิ่มผลผลิต และเพื่อเปิดทางให้รัฐบาลกลางจัดสรรเงินกู้ระยะสั้นให้แก่เกษตรกรที่ปลูกพืชชนิดอื่น ๆ ด้วย
ข้อเรียกร้องดังกล่าวมีขึ้นในช่วงที่ราคาธัญพืชทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นหลังจากรัสเซียบุกโจมตียูเครน ซึ่งส่งผลให้การขนส่งข้าวโพดและข้าวสาลีจากทั้งสองประเทศชะลอตัวลง ขณะเดียวกันเงินเฟ้อด้านราคาอาหารยังคงดีดตัวขึ้นทั่วโลก
ทั้งนี้ การขออนุมัติงบดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของข้อเรียกร้องที่ปธน.ไบเดนขอต่อสภาคองเกรสให้เพิ่มงบช่วยเหลือ 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อให้ยูเครนสามารถป้องกันประเทศจากการโจมตีของรัสเซีย
กระทรวงเกษตรสหรัฐระบุว่า ข้อเรียกร้องในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตพืชเพื่อการบริโภคของสหรัฐ โดยเฉพาะข้าวสาลีที่ขาดแคลนไปทั่วโลกเพราะภัยสงคราม โดยกระทรวงฯ ตั้งเป้าช่วยเหลือเกษตรกรในสหรัฐให้สามารถส่งออกข้าวสาลีในปริมาณ 50% ที่ยูเครนเคยส่งออกสู่ตลาดโลก รวมถึงพยุงราคาอาหารให้อยู่ในระดับต่ำสำหรับชาวอเมริกัน
นอกจากนี้ คณะบริหารยังของบประมาณสนับสนุน 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อจูงใจเกษตรกรผู้ปลูกพืชเป็นเงิน 10 ดอลลาร์ต่อเอเคอร์ โดยจะจ่ายเป็นเบี้ยประกันผลผลิตสำหรับถั่วเหลืองที่เพาะปลูกหลังการปลูกข้าวสาลีฤดูหนาวในปี 2566
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า งบประมาณก้อนนี้จะใช้เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรเพิ่มปริมาณการเพาะปลูกข้าวสาลี ในขณะที่ยังคงสามารถเพาะปลูกพืชในฤดูใบไม้ผลิได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 เม.ย. 65)
Tags: ข้าวสาลี, เกษตรกร, โจ ไบเดน