ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐได้ลงนามในกฎหมายเมื่อวันอังคาร (29 มี.ค.) เพื่อทำให้การลงประชาทัณฑ์หรือการใช้ศาลเตี้ยเป็นอาชญากรรมจากความเกลียดชังเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐ
“กฎหมายฉบับนี้ไม่ใช่เรื่องของอดีตเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจุบันและอนาคตของเราอีกด้วย” ปธน.ไบเดนกล่าว โดยเน้นย้ำว่า เหล่าผู้นำด้านสิทธิมนุษยชน และสมาชิกสภานิติบัญญัติอุทิศตัวทำงานมานานกว่า 100 ปี เพื่อที่จะผ่านกฎหมายฉบับนี้
ขณะที่ นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐซึ่งสนับสนุนกฎหมายฉบับดังกล่าวตั้งแต่สมัยดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกระบุว่า การลงประชาทัณฑ์หรือการใช้ศาลเตี้ยถือเป็น “จุดด่างพร้อยของประวัติศาสตร์ชาติเรา การใช้ความรุนแรงทางเชื้อชาติยังคงปรากฏอยู่ภายในประเทศของเรา และเมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เราต้องกล้าที่จะพูดออกมา และนำตัวคนร้ายมาลงโทษ”
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กฎหมายฉบับนี้ตั้งชื่อตามเอ็มเมตต์ ทิลล์ เด็กชายชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันอายุ 14 ปีที่ถูกทำร้ายและสังหารโดยชายผิวขาว 2 คนในรัฐมิสซิสซิปปีเมื่อปี 2498
ทั้งนี้ วุฒิสภามีมติเป็นเอกฉันท์ผ่านร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวในวันที่ 7 มี.ค. หนึ่งเดือนหลังจากผ่านการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎร โดยกฎหมายฉบับนี้บัญญัติให้การลงประชาทัณฑ์หรือการใช้ศาลเตี้ยเป็นอาชญากรรมจากความเกลียดชัง ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกสูงสุดถึง 30 ปี
มหาวิทยาลัยทัสคีกีซึ่งติดตามประวัติการลงประชาทัณฑ์ประเมินว่า มีเหยื่อถูกลงประชาทัณฑ์หรือใช้ศาลเตี้ยกว่า 4,7000 รายระหว่างปี 2425 -2511 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มี.ค. 65)
Tags: ศาลเตี้ย, สหรัฐ, อาชญากรรม, โจ ไบเดน