ไทยพร้อมร่วมผลักดันท่องเที่ยวอาเซียนเป็น Single Destination ยกระดับท่องเที่ยวแบบไร้รอยต่อ

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ 28 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Unity in Motion: Shaping ASEAN’s Tourism Tomorrow”ที่ยะโฮร์บาห์รู สหพันธรัฐมาเลเซีย ในการประชุมฯ ดังกล่าว รัฐมนตรีท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากชาติสมาชิกอาเซียนได้แสดงวิสัยทัศน์และจุดยืนร่วมกันที่จะผลักดันให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของโลก ผ่านการดำเนินโครงการ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวอาเซียน ปี พ.ศ. 2559 – 2568 โดยปัจจุบันอาเซียนได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วกว่า ร้อยละ 70 ของโครงการทั้งหมด

ในโอกาสนี้ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะสนับสนุนการดำเนินงานของชาติสมาชิกอาเซียน และคู่ภาคีภายนอก ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงในภูมิภาคอาเซียนผ่านวิสัยทัศน์ “IGNITE Thailand” ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน ครอบคลุมทั้งการท่องเที่ยว ซึ่งการท่องเที่ยวเป็นประเด็นหลักที่ไทยได้ให้ความสำคัญ (Priority) ด้วยการออกนโยบายการอำนวยความสะดวกในการเดินทางข้ามพรมแดน การส่งเสริมมาตราการการรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว การส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรองและเมืองน่าเที่ยว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุมทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และทางราง และการให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น รวมถึงการให้ความสำคัญกับการนำเสนอการท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับจุดหมายปลายทางในอาเซียน

นอกจากนี้ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาได้นำเสนอประเด็นสำคัญหลักที่ไทยและชาติสมาชิกอาเซียนควรพิจารณาให้ความสำคัญ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอาเซียนในฐานะจุดหมายปลายทางเดียวกัน ด้วยการส่งเสริมการดำเนินงานด้านนโยบายเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างกัน การส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาดด้านการท่องเที่ยว การส่งเสริมการสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยว การพัฒนามาตรฐานด้านการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ในอาเซียน การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การใช้นวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนข้อมูลสถิติระหว่างกัน และการพัฒนาทักษะบุคลากรด้านการท่องเที่ยว โดย รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม “ASAEN – India Forum : Journey of Opportunities” ในช่วงปี พ.ศ. 2568 และขอเชิญชวนประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าร่วม Forum ดังกล่าว

ทั้งนี้ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทย โดยในปี พ.ศ. 2567 ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 35.54 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 1.67 ล้านล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน (6,702,554 คน) มาเลเซีย (4,929,455 คน) อินเดีย (2,116,250 คน) เกาหลีใต้ (1,859,738 คน) และรัสเซีย (1,725,901 คน) ซึ่งล้วนเป็นผลสืบเนื่องจากความมุ่งมั่นในการฟื้นฟูการท่องเที่ยว ด้วยการออกนโยบาย Ease of Traveling ที่รัฐบาลและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการ เช่น มาตรการ Visa-Free สำหรับ 93 ประเทศ การยกเว้นการยื่นแบบ ตม. 6 และการพัฒนาระบบขอวีซ่าออนไลน์ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม

โดย รมว.การท่องเที่ยวและกีฬากล่าวเพิ่มเติมว่า เป้าหมายการท่องเที่ยวปี พ.ศ. 2568 ตั้งเป้าให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยจำนวน 40 ล้านคน คาดหมายรายได้รวม 3 ล้านล้านบาท

ท้ายนี้ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ในปี พ.ศ. 2568 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทย “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” และขอรับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิกในการร่วมมือส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ม.ค. 68)

Tags: , ,