นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) กล่าวภายหลังหารือเพื่อกระชับความร่วมมือกับ นายนาเกช ซิงห์ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย ว่า อว.เล็งเห็นถึงโอกาสในการขยายความร่วมมือระหว่างไทยกับอินเดียในสาขาต่าง ๆ โดยเฉพาะด้าน AI EV เทคโนโลยีอวกาศ เทคโนโลยีชีวภาพ พลังงานหมุนเวียน เทคสตาร์ทอัพ (Tech Startup) และการพัฒนาบุคคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โดยได้แสดงความขอบคุณรัฐบาลอินเดียที่ได้ช่วยพัฒนาบุคลากรของไทยผ่านการให้ทุนฝึกอบรมในสาขาต่าง ๆ ในโครงการ ITEC (India Technical and Economic Cooperation) และผ่านโครงการทุนการศึกษาของ ICCR (Indian Councial for Cultural Relations) การส่งเสริมความร่วมมือด้านอุดมศึกษาที่ อว.พร้อมจะสนับสนุนเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยไทยและอินเดีย เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและบุคลากร รวมถึงการแลกเปลี่ยนทางวิชาการและวัฒนธรรม
ปัจจุบันมีนักศึกษาอินเดียที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยไทยเกือบ 500 คน และมหาวิทยาลัยไทยมีการส่งเสริมในเรื่องของอินเดียศึกษาโดยมหาวิทยาลัยที่มีศูนย์อินเดียศึกษา ซึ่งสามารถเป็นสะพานเชื่อมโยงความร่วมมือได้เป็นอย่างดี ซึ่ง อว.ยินดีที่จะสนับสนุนให้ทั้ง IIT และ IIM (Indian Institute of Management) ได้ขยายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยไทย
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศ และ กระทรวง อว. โดยกลุ่มมหาวิทยาลัยไทยชั้นนำมีแนวคิดที่จะจะขยายความร่วมมือด้านการศึกษากับภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย (North Eastem Region-NER) โดยเฉพาะรัฐอัสสัมกับรัฐเมฆาลัย เนื่องจากเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงอินเดียกับประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นประตูสู่ประเทศไทย โดยตนขอให้ท่านทูตฯ ให้การสนับสนุนความร่วมมือดังกล่าว และคาดว่าเราจะได้เห็นกิจกรรมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยไทยกับสถาบันการศึกษาในรัฐอัสสัมและรัฐเมฆาลัยเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพสูง เพื่อเร่งให้ก้าวไปสู่การเป็นยูนิคอร์นอย่างรวดเร็ว อว. มีอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค 4 แห่ง และยังมีสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมธุรกิจสตาร์ทอัพ พัฒนารูปแบบธุรกิจที่สร้างสรรค์ และสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงผู้ประกอบการกับนักลงทุนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปจนถึงการสร้างพันธมิตรในระดับนานาชาติ ซึ่งตนทราบมาว่าขณะนี้เศรษฐกิจดิจิทัลในอินเดียเติบโตแบบก้าวกระโดด และมีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นมากเป็นอันดับ 3 ของโลก ในโอกาสนี้ขอชื่นชมในความสำเร็จและความก้าวหน้าของอินเดียและหวังว่าเราจะได้ร่วมมือเพื่อกันผลักดันสตาร์ทอัพไทยให้ประสบความสำเร็จต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ธ.ค. 67)
Tags: ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ, นาเกช ซิงห์, ศุภชัย ใจสมุทร, อินเดีย