สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ไต้หวันได้เร่งตรวจสอบกรณีหนูในห้องทดลองกัดนักวิทยาศาสตร์รายหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นต้นตอการระบาดครั้งใหม่ของโรคโควิด-19 ในประเทศ
นายเฉิน ชิห์-ชุง รมว.สาธารณสุขของไต้หวันเปิดเผยในการแถลงข่าวเมื่อเย็นวานนี้ (9 ธ.ค.) ว่า นักวิทยาศาสตร์หญิงรายหนึ่งซึ่งมีอายุราว 20 ปีขึ้นไปได้ตรวจพบว่า ตนเองติดเชื้อโควิด-19 ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่เคยทำงานที่อะคาดีเมีย ซินิกาซึ่งเป็นสถาบันวิจัยชั้นนำของไต้หวันในช่วงกลางเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา โดยนักวิทยาศาสตร์รายนี้ไม่ได้เดินทางไปยังต่างประเทศเมื่อเร็ว ๆนี้ และได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของโมเดอร์นาแล้ว 2 เข็ม
เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งยืนยันในการแถลงข่าวดังกล่าวว่า นักวิทย์คนดังกล่าวได้ถูกหนูตัวหนึ่งกัดในห้องทดลอง โดยหนูตัวนั้นติดเชื้อโควิด-19 แต่เขาก็ระบุว่า ยังคงจำเป็นต้องตรวจสอบต่อไปว่า การถูกหนูกัดดังกล่าวเป็นต้นตอของการแพร่เชื้อโควิด-19 หรือไม่
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของไต้หวันเชื่อว่า นักวิทย์คนดังกล่าวอาจติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา โดยก่อนการแถลงข่าวเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อโควิดรายล่าสุดเมื่อวานนี้นั้น ไต้หวันพบผู้ติดโควิดในประเทศครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ไต้หวันยังคงคุมเข้มการเดินทางและมาตรการกักตัวสำหรับการเดินทางเข้าประเทศ แต่รัฐบาลก็ได้ทยอยผ่อนคลายข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจและด้านการบันเทิงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขณะที่กิจกรรมในประเทศได้เริ่มกลับสู่ภาวะปกติแล้วเป็นส่วนใหญ่
นับตั้งแต่โควิดระบาด ไต้หวันรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ 14,500 ราย และเสียชีวิต 848 ราย
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขบ่งชี้ว่า มีประชาชน 94 คนที่ได้สัมผัสติดต่อกับนักวิทย์รายนี้นับตั้งแต่เธอติดเชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพื่อนร่วมงานและเพื่อนสนิท และทั้งหมดได้ถูกสั่งกักตัวแล้ว โดย 8 รายได้รับการตรวจเชื้อเป็นลบ ขณะที่นักวิทย์ดังกล่าวก็ได้ลาออกจากงานเมื่อต้นเดือนนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ธ.ค. 64)