กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก (OPEC) เปิดเผยวันนี้ (26 มิ.ย.) ว่า ความต้องการน้ำมันทั่วโลกจะขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 110 ล้านบาร์เรลต่อวันในอีกประมาณ 20 ปีข้างหน้า ผลักดันให้ดีมานด์พลังงานทั่วโลกดีดตัวขึ้น 23%
นายไฮธาม อัล-กาอิส เลขาธิการโอเปก กล่าวระหว่างการประชุมพลังงานเอเชีย (Energy Asia) ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียว่า “ยังไม่มีสิ่งใดมาทดแทนน้ำมันได้ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งจากมุมมองของเราที่มีต่อแนวโน้มทั่วโลก เราเล็งเห็นว่า ความต้องการน้ำมันจะขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 110 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2588” พร้อมเสริมว่า น้ำมันจะยังคงคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 29% ของพลังงานทั้งหมด ณ เวลานั้น
“เรามองว่า ความต้องการพลังงานทั่วโลกจะขยายตัวขึ้น 23% เมื่อถึงปี 2588” นายอัล-กาอิส กล่าว
อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ดังกล่าวสวนทางกับของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่ประเมินว่า การเติบโตของดีมานด์น้ำมันประจำปีจะปรับตัวลดลงจากระดับ 2.4 ล้านบาร์เรลต่อวันสู่ระดับ 400,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2571
เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว IEA คาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันทั่วโลกจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% จากปี 2565 สู่ระดับ 105.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2571 โดยได้แรงหนุนจากภาคส่วนปิโตรเคมีและการบิน
ทั้งนี้ นายอัล-กาอิสระบุว่า การลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันที่ไม่เพียงพอรังแต่จะเป็นอุปสรรคต่อความอยู่รอดของระบบพลังงานในปัจจุบันและนำไปสู่ “ความโกลาหลด้านพลังงาน”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มิ.ย. 66)