ผลสำรวจล่าสุดโดยศูนย์วิจัยพิว (Pew Research Center) ระบุว่า ชาวสหรัฐเกือบ 30% มองว่าวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีไม่คุ้มค่า ชี้ให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อมุมมองที่มีต่อการศึกษาระดับอุดมศึกษาในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาของสหรัฐ
ประชากรวัยผู้ใหญ่ของสหรัฐเกือบครึ่งในผลสำรวจมองว่า การเรียนป.ตรีนั้นคุ้มค่า แต่เฉพาะในกรณีที่ไม่จำเป็นต้องกู้เงินเรียนเท่านั้น ขณะที่มีผู้ตอบแบบสำรวจเพียง 22% ที่ระบุว่า การเรียนป.ตรีคุ้มค่าแม้จะต้องเป็นหนี้จากการศึกษาก็ตาม
ผลสำรวจระบุว่า 4 ใน 10 ของชาวสหรัฐกล่าวว่า การเรียนป.ตรี 4 ปีไม่ได้สำคัญมากขนาดนั้นหรือไม่สำคัญเลยในการที่จะมีงานรายได้ดี เมื่อเทียบกับเพียง 25% ของผู้ตอบแบบสอบถามเท่านั้นที่ระบุว่า การเรียนป.ตรีสำคัญมากหรือสำคัญอย่างยิ่งต่อการมีงานรายได้ดี
ผลสำรวจดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ค่าเล่าเรียนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ การชำระคืนเงินกู้ยืมของนักศึกษาชาวสหรัฐหลายล้านคนหวนคืนมาอีกครั้ง และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจบางอย่างของมหาวิทยาลัยลดลง โดยรวมแล้วแนวโน้มเหล่านี้ทำให้นักศึกษาและผู้ปกครองเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบากมากขึ้นเกี่ยวกับการเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา
นายแบรด โคเฮน เจ้าหน้าที่สินเชื่ออาวุโสของเฟิร์สต์ เฮอริเทจ มอร์เกจ (First Heritage Mortgage) และเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า การวิเคราะห์ต้นทุน-ผลประโยชน์ได้เปลี่ยนไปในทางที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเรียนป.ตรี 4 ปี เนื่องจากค่าเล่าเรียนสูงขึ้น
“ผมคิดว่า มหาวิทยาลัยเป็นหนึ่งในสิ่งที่สิ้นเปลืองเงินมากที่สุด เว้นเสียแต่ว่าคุณอยากเป็นหมอหรือเป็นทนาย หรืออาชีพบางอย่างที่ต้องใช้ความชำนาญพิเศษ มันแพงได้บ้าบอคอแตกจริง ๆ” นายโคเฮนให้สัมภาษณ์
อนึ่ง รายงานล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงให้เห็นว่า ชาวสหรัฐยังคงมองว่าการศึกษาเป็นเส้นทางสู่สถานะทางการเงินที่ดีขึ้น และคนส่วนใหญ่ที่สำเร็จการศึกษาระดับป.ตรีขึ้นไปยังคงมองว่าคุ้มค่า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ค. 67)
Tags: การศึกษา, ผลสำรวจ, สหรัฐ