นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น มีความนิยมลดต่ำลง ในโพลสำรวจ 3 โพลที่สำรวจความคิดเห็นประชาชนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียงของเขาในการเลือกตั้งทั่วไปที่เกิดอาจขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งเร็วสุดอาจเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้
โพลสำรวจที่จัดทำโดยหนังสือพิมพ์ไมนิจิ เมื่อวันที่ 17 – 18 มิ.ย. เผยให้เห็นว่าคะแนนนิยมของนายคิชิดะร่วงลง 12% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 33% เนื่องจากกระแสความกังวลด้านความปลอดภัยของข้อมูลบัตรประชาชนใหม่ที่รัฐบาลเพิ่งนำเสนอ ขณะที่โพลสำรวจที่จัดทำในช่วงเวลาเดียวกันโดยหนังสือพิมพ์อาซาฮีพบว่า ความนิยมของนายคิชิดะลดลงประมาณ 4% ส่วนโพลสำรวจของสำนักข่าวเกียวโดชี้ว่าความนิยมลดลง 6%
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายคิชิดะ ได้ยุติกระแสข่าวลือที่ว่าจะมีการเลือกตั้งอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ค. โดยกล่าวว่าเขาจะไม่ยุบสภาชุดปัจจุบันเพื่อการเลือกตั้ง แต่ก็มีการคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่านายคิชิดะจะยุบสภาและประกาศให้มีการเลือกตั้งภายในสิ้นปีนี้ โดยการตัดสินใจดังกล่าวคาดว่าจะสอดคล้องกับแผนการจัดหาเงินทุนสำหรับการใช้จ่ายด้านกลาโหมที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับขึ้นภาษี
แม้ว่านายคิชิดะไม่จำเป็นต้องจัดการหาเสียง จนกว่าจะถึงปี 2568 แต่ชัยชนะในการเลือกตั้งในเดือนก.ย. 2567 จะช่วยให้เขาสามารถรักษาตำแหน่งหัวหน้าพรรคพรรคเสรีประชาธิปไตย (Liberal Democratic Party – LDP) ที่ครองอำนาจมาอย่างยาวนานไว้ได้ แม้พรรคของนายคิชิดะน่าจะได้เป็นรัฐบาลต่อไป แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเสียคะแนนให้กับพรรคนวัตกรรมญี่ปุ่น (Japan Innovation Party) ซึ่งกำลังมาแรงอย่างมากในขณะนี้
ด้านข่าวฉาวเกี่ยวกับลูกชายของนายคิชิดะ และข้อผิดพลาดจำนวนมากของการเสนอให้ใช้บัตรประชาชนใหม่ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ในการเข้าถึงการรักษาพยาบาล จะมีส่วนทำให้การสนับสนุนนายคิชิดะลดลงในที่สุด
นอกจากนี้แล้ว โพลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่าประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไม่ประทับใจกับนโยบายของนายคิชิดะในการรับมือกับวิกฤตจำนวนประชากรลดลง ซึ่งเขากล่าวว่าเป็นภัยคุกคามต่อการโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มิ.ย. 66)
Tags: การเลือกตั้ง, ญี่ปุ่น, ฟูมิโอะ คิชิดะ, โพล