โบรกเกอร์มองบวกหุ้นไทยฟื้นในช่วงครึ่งปีหลังหลังทำจุดต่ำสุดใหม่ เชื่อเบิกจ่ายงบประมาณในเริ่มเห็นในไตรมาส 3/67 การฟื้นกองทุน LTF ช่วยหนุนเม็ดเงินลงทุนสถาบัน อีกทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯยกระดับมาตรการกำกับดูแลช่วยสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน ส่องหุ้นเด่น CPALL, OSP รับดิจิทัลวอลเล็ต , TU, SFLEX, SAV, KBANK, MINT
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวในงานสัมมนา หุ้นไทย 2024 with the Dragon Fier “Discover new opportunities” ถึงแนวโน้มตลาดหุ้นไทยโดยมีมุมมองเป็นบวกในช่วงครึ่งปีหลัง ตามทิศทางเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างสมดุลในหลายมิติ รวมทั้งมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ
โดยหากเปรียบเทียบกับในอดีตที่มีการเลือกตั้ง การเบิกจ่ายงบจะล่าช้าเช่นเดียวกับปี 66 ที่มีการเลือกตั้งและชะลอการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งหากมีการผ่านงบแล้วช่วงไตรมาส 3/67 การเบิกจ่ายในบางเดือนอาจโต 50-60% สะท้อนว่าภาพรวมเศรษฐกิจในไตรมาส 3/67 ไม่น่ามีประเด็นกังวล นอกจากนี้ไตรมาส 4/67 จะมีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทซึ่งอาจกระทบกับหลายกลุ่มธุรกิจแต่ก็มีบางกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์ อาทิ กลุ่มอาหารและค้าปลีก ซึ่งสอดคล้องกับมิติอื่น ๆ ที่จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามกลุ่มรับเหมาก่อสร้างอาจได้รับผลกระทบประมาณ 3-6 เดือน ก่อนจะค่อยๆ ฟื้น
นอกจากนี้จะมีการรื้อฟื้นกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) กลับมา แม้ว่าเม็ดเงินอาจจะไม่สูงถึง 76,000 ล้านบาทที่เคยเป็นจุดสูงสุด แต่หากมีเม็ดเงินเข้ามาประมาณ 4 – 5 หมื่นล้านบาทต่อเนื่องกันหลายปีน่าจะส่งผลดีอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งการฟื้นตัวรายได้จากการเกษตร แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะเผชิญภาวะเอลนีโญ ซึ่งถัดมามองว่าการเกิดลานีญาอาจไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่กังวล ซึ่งมีโอกาสที่จะเห็นการเติบโตของกลุ่มการเกษตรมากขึ้น
โดยแนะนำ 5 หุ้นเด่น ประกอบด้วย CPALL ซึ่งน่าจะได้ประโยชน์เต็มที่จากโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต OSP ได้ประโยชน์ทางอ้อมจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งมีสัดส่วนการขาย 70% ยอดขายในประเทศ แบ่งเป็นร้านค้าขนาดเล็ก 30% และ 60-70% จากโมเดิร์นเทรด SCGP โดยมองว่าการเติบโตจะฟื้นตัวจากการบริโภค TU แม้ปีที่แล้วจะมีการตั้งสำรองค่อนข้างสูง แต่ปีนี้น่าจะฟื้นตัวยิ่งไปกว่านั้นไม่มีผลขาดทุนจากธุรกิจเรดล็อบสเตอร์แล้ว ส่งผลให้กำไรปีนี้น่าจะดีขึ้นประมาณ 10% และ KBANK แม้วัฎจักรดอกเบี้ยกำลังจะปรับตัวลดลง แต่ NIM ไม่ได้ปรับตัวลงเร็ว อีกทั้งการที่เศรษฐกิจฟื้นตัวทำให้คุณภาพลูกหนี้ดีขึ้น และภาพรวมก็จะปรับดีขึ้นตาม
นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.บัวหลวง กล่าวว่ามาตรการกำกับดูแลตลาดที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีการประกาศใช้ตามขั้นตอน น่าจะเป็นความหวังหนึ่งที่ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมาดีขึ้น และการที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่ ในขณะเดียวกันก็มีหุ้นบางตัวที่กำไรทำ New High ซึ่งเราต้องมองหาหุ้นที่พื้นฐานยังดีและราคาลงมาถูกมาก
โดยแนะนำ 5 หุ้นเด่น อาทิ OSP ที่จะมีการพัมนาเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ และยังมีความน่าสนใจจากการไปตั้งโรงงานผลิตในเมียนมาทำให้เข้าถึงตลาดได้ง่ายกว่า, SFLEX ซึ่งคาดว่าแนวโน้มกำไรเติบโตดีตามการเติบโตของ TU ITC และ SCGP เนื่องจากมีธุรกิจที่เชื่อมโยงกัน, SAV ที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับวิทยุการบิน รวมทั้งยังมีนวัตกรรมที่ไม่มีใครแข่งขันได้ นอกจากนี้ยังอาจจะมีโครงการร่วมกับ AOT เพิ่มเติมและได้งานที่เป็นสัมปทานระยะยาว, CPF มองว่าปีนี้จะเทิร์นอะราวด์ ตามราคาเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้น ทั้งจีน เวียดนาม ขณะที่ราคาสุกรในไทยเริ่มถึงจุดคุ้มทุนหลังสถานการณ์หมูเถื่อนคลี่คลาย, MINT รับอานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้น จากการจัดโอลิมปิก และการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 ช่วยเข้ามากระตุ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มิ.ย. 67)
Tags: กิจพณ ไพรไพศาลกิจ, ตลท., ตลาดหุ้นไทย, วิกิจ ถิรวรรณรัตน์, หุ้นไทย, โบรกเกอร์