โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในประเทศจีนสำหรับช่วง 2 เดือนข้างหน้า เนื่องจากมีความวิตกกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดรอบใหม่ของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในจีนจะอยู่ที่ 1 ล้านบาร์เรล/วันในช่วง 2 เดือนข้างหน้า
อย่างไรก็ดี โกลด์แมน แซคส์ คาดว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่มีต่อความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกนั้น ยังคงอยู่ในระดับปานกลาง พร้อมกับปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในช่วง 2 เดือนข้างหน้าลงสู่ระดับ 97.8 ล้านบาร์เรล/วัน จากตัวเลขคาดการณ์เดิมในเดือนก.ค.ที่ระดับ 98.4 ล้านบาร์เรล/วัน
ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจีนเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาซึ่งพบในเมืองต่างๆ กว่า 12 แห่งนับตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.
โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า “เรายังคงคาดว่าไวรัสสายพันธุ์เดลตาจะส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมันซึ่งรวมถึงในประเทศจีนในช่วงเวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น สอดคล้องกับวงจรในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอินเดียเมื่อไม่นานมานี้” พร้อมระบุว่า ความต้องการน้ำมันในสหภาพยุโรป ละตินอเมริกา และอินเดีย มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้น
ส่วนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ โดยคาดว่าการที่จีนประกาศใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายตัวได้อย่างรวดเร็วนั้น จะฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ
นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2564 ของจีนลงเหลือ 8.3% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 8.6% โดย รายงานคาดการณ์ดังกล่าวอยู่บนสมมติฐานที่ว่า รัฐบาลจีนจะสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้ในเวลาราว 1 เดือน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ส.ค. 64)
Tags: GDP, จีดีพี, จีน, น้ำมัน, เศรษฐกิจจีน, โกลด์แมน แซคส์