โกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่า ผู้บริโภคในสหรัฐฯ จะเผชิญกับผลกระทบที่มีนัยสำคัญจากการที่โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา อย่างไรก็ดี โกลด์แมน แซคส์ไม่มั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย
ดาอัน สไตรเวน หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ของโกลด์แมน แซคส์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในงานเสวนาโต๊ะกลมในวันนี้ (27 พ.ย.) ว่า การเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาในอัตรา 25% ตามข้อเสนอของทรัมป์นั้น มีแนวโน้มที่จะทำให้ราคาเชื้อเพลิงในสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น และกล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์นี้คล้ายคลึงกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในสมัยแรก และอาจถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการเจรจาต่อรอง
สไตรเวนกล่าวว่า ในทางทฤษฎีนั้น การเก็บภาษีนำเข้าสินค้า “จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อคนสามกลุ่ม ซึ่งได้แก่ผู้บริโภคชาวอเมริกัน โรงกลั่นน้ำมันของสหรัฐฯ และผู้ผลิตชาวแคนาดา แต่เมื่อพิจารณาจากการที่ทรัมป์มุ่งเน้นไปที่การลดต้นทุนพลังงานแล้ว เราคิดว่าการเก็บภาษีจากแคนาดามีโอกาสเกิดขึ้นค่อนข้างน้อย”
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สหรัฐฯ นำเข้าน้ำมันดิบจากแคนาดาในปริมาณเกือบ 4 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตชาวอเมริกันสามารถส่งออกน้ำมันของตนได้มากขึ้น
ทางด้านประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสมาคมผู้ผลิตปิโตรเลียมแคนาดากล่าวว่า การเก็บภาษีจะส่งผลให้ต้นทุนน้ำมันเบนซินและพลังงานสำหรับผู้บริโภคชาวอเมริกันปรับตัวสูงขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ย. 67)
Tags: ภาษี, แคนาดา, โกลด์แมน แซคส์, โดนัลด์ ทรัมป์