บริษัทแอร์บัสประกาศว่า จะเพิ่มกำลังการผลิตเครื่องบินแบบมีช่องทางเดินเดียว (Single-aisle) ในปี 2566 ให้มากกว่าระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยบริษัทคาดว่าธุรกิจสายการบินจะสามารถฟื้นตัวจากสถานการณ์ในปัจจุบันได้
เมื่อปีที่ผ่านมา แอร์บัสลดกำลังการผลิตเครื่องบินลงตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่สถานการณ์โรคระบาดทั่วโลกบีบบังคับให้ประเทศต่างๆ ต้องปิดพรมแดนระหว่างประเทศ ซึ่งทำให้ยอดการเดินทางด้วยเครื่องบินลดลงอย่างมาก และส่งผลกระทบอย่างหนักต่อรายได้ของสายการบิน
อย่างไรก็ดี แอร์บัสเปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าความต้องการในตลาดเครื่องบินพาณิชย์จะกลับคืนสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดได้ภายในปี 2566-2568 โดยมีภาคการผลิตเครื่องบิน Single-aisle นำตลาด โดยนายกีโยม โฟรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอร์บัสเปิดเผยในการแถลงข่าวว่า “ขณะนี้ธุรกิจสายการบินเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์โควิด-19 แล้ว”
ปัจจุบันแอร์บัสผลิตเครื่องบินรุ่น A320 ได้ 40 ลำต่อเดือน แต่บริษัทระบุว่าได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตสู่ระดับ 45 ลำต่อเดือนในช่วงต.ค.-ธ.ค.ที่จะถึงนี้
นอกจากนี้ แอร์บัสยังระบุว่า บรรดาซัพพลายเออร์ต่างๆ ควรเตรียมรับมือกับการผลิตเครื่องบิน A320 สู่ระดับ 64 ลำต่อเดือนภายในไตรมาส 2/2565, สู่ระดับ 70 ลำต่อเดือนภายในปี 2567 และสู่ระดับ 75 ลำต่อเดือนภายในปี 2568
ทั้งนี้ ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แอร์บัสสามารถผลิตเครื่องบินได้ 60 ลำต่อเดือน และมีแผนว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 63 ลำต่อเดือนในปี 2563 จนกระทั่งได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ในเวลาต่อมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ค. 64)
Tags: กีโยม โฟรี, สายการบิน, เครื่องบิน, แอร์บัส