สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ธนาคารรายใหญ่หลายแห่งของสหรัฐที่ร่วมอัดฉีดเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคารเฟิร์สต์ รีพับลิก แบงก์ (FRB) ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมานั้น กำลังวางแผนที่จะเพิ่มเงินทุนสำรองรายละ 100 ล้านดอลลาร์
เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารรายใหญ่ 11 แห่ง ประกาศเสริมสภาพคล่องให้กับ FRB ด้วยการนำเงินจำนวนรวมกัน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ฝากในบัญชีของ FRB ซึ่งเป็นธนาคารในระดับภูมิภาคของสหรัฐ โดยธนาคารที่ร่วมอัดฉีดเงินได้แก่ แบงก์ ออฟ อเมริกา, เวลส์ ฟาร์โก, ซิตี้กรุ๊ป, เจพีมอร์แกน, โกลด์แมน แซคส์, มอร์แกน สแตนลีย์, ทรูอิสต์ ไฟแนนเชียล, พีเอ็นซี, ยูเอส แบงคอร์ป, สเตทสตรีท และแบงก์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน
แหล่งข่าวระบุว่า การที่ธนาคารทั้ง 11 แห่งตัดสินใจเพิ่มความแข็งแกร่งของเงินทุนสำรองรายละ 100 ล้านดอลลาร์ เป็นไปตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐที่มีคำสั่งให้ธนาคารเหล่านี้ต้องกันเงินสำรองเพื่อป้องกันความเป็นไปได้ที่จะเกิดการขาดทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เป็นวงกว้าง
อย่างไรก็ดี เจพีมอร์แกน, แบงก์ ออฟ อเมริกา และเวลส์ ฟาร์โก ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว
ทั้งนี้ FRB เผชิญปัญหาสภาพคล่องอย่างรุนแรง หลังจากการล่มสลายของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB) ได้ส่งผลกระทบลุกลามไปยังธนาคารประจำภูมิภาคของสหรัฐ โดยเงินฝากของ FRB ไม่ได้รับการค้ำประกันจากรัฐบาลสหรัฐสูงสุดเป็นอันดับ 3 รองจาก SVB และ SB ทำให้ลูกค้าจำนวนมากโยกย้ายเงินฝากออกจาก FRB ไปยังธนาคารขนาดใหญ่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 เม.ย. 66)
Tags: FRB, ธนาคาร, สหรัฐ, เฟิร์สต์ รีพับลิก แบงก์