สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างเอกสารภายในว่า ธนาคารกลางเวียดนามได้ปล่อยเงินกู้เพิ่มอีก 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับธนาคารไซ่ง่อน จอยท์ สต็อก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (SCB) ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นธนาคารที่พัวพันกับการฉ้อโกงทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศ ทำให้ยอดเงินกู้รวมพุ่งไปอยู่ที่ 2.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการช่วยเหลือผู้ฝากเงิน
การช่วยเหลือผู้ฝากเงินของ SCB ครั้งใหญ่ครั้งนี้ทำให้ธนาคารกลางต้องจ่ายเงินกู้พิเศษเทียบเท่ากับ 6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนามในปี 2566
ก่อนหน้านี้ รอยเตอร์รายงานในเดือนเม.ย.ว่า ธนาคารกลางได้ดำเนินการช่วยเหลือ SCB แบบที่ “ไม่เคยปรากฏมาก่อน” โดยแหล่งข่าวในขณะนั้นกล่าวว่า SCB จะล้มละลายหากไม่ได้รับเงินทุนสนับสนุน
ณ วันที่ 29 พ.ค. ธนาคารกลางได้ปล่อยเงินกู้ให้กับ SCB เป็นจำนวน 622.7 ล้านล้านดอง (2.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามเอกสารที่จัดทำโดย SCB ซึ่งระบุรายละเอียดการอัดฉีดเงินทุนเข้าสู่ SCB เป็นรายวันเพื่อติดตามเงินทุนและการใช้เงิน เพิ่มขึ้นจากระดับ 592.7 ล้านล้านดอง (2.33 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ณ วันที่ 2 เม.ย.
เอกสารดังกล่าวระบุว่า SCB ใช้เงินทุนของธนาคารกลางเพื่อช่วยรองรับการถอนเงินและการชำระเงินอื่น ๆ เป็นจำนวน 626.9 ล้านล้านดองนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2565 เมื่อ SCB ถูกควบคุมโดยธนาคารกลาง โดยในขณะนั้น SCB มีเงินฝากอยู่ที่ 669 ล้านล้านดอง
วิกฤตคนแห่ถอนเงินจาก SCB เกิดขึ้นหลังการจับกุมนางเจือง มาย หลั่น มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ในเดือนต.ค. 2565 ซึ่งเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เธอถูกตัดสินประหารชีวิตโทษฐานเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการฉ้อโกงครั้งใหญ่ที่ SCB
ผู้พิพากษาระบุว่า นางหลั่นได้ยักยอกเงินกู้ 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐออกจาก SCB ไปยังบรรดาบริษัทที่ไม่มีการดำเนินธุรกิจหรือบริษัทที่มีแต่เปลือก (shell company) และในขณะเดียวกันนางหลั่นก็เข้าควบคุม SCB ทางอ้อมโดยผ่านทางตัวแทน อย่างไรก็ดี นางหลั่นปฏิเสธข้อกล่าวหาและได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินแล้ว
ภายใต้แผนการคุ้มครองเงินฝากอย่างเป็นทางการของเวียดนาม วงเงินคุ้มครองอยู่ที่เพียงประมาณ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อผู้ฝากเงินต่อธนาคาร แต่ในช่วงต้นเดือนเม.ย. การอัดฉีดเงินสดของธนาคารกลางเข้าสู่ SCB มีมูลค่าประมาณ 1 ใน 4 ของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของเวียดนาม
ธนาคารกลางไม่ได้เปิดเผยว่าได้จัดหาเงินทุนสำหรับการปล่อยกู้ขนาดใหญ่ให้กับ SCB อย่างไร แต่ข้อมูลสาธารณะล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นประมาณ 8.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่างเดือนก.ย. 2565 ซึ่งเป็นเดือนก่อนที่การช่วยเหลือ SCB จะเริ่มขึ้น จนถึงเดือนก.พ. 2567
นั่นคือปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับการเติบโตของ GDP เกือบ 6% ในช่วงเวลาเดียวกัน ตามการวิเคราะห์ข้อมูลจากธนาคารกลางและสำนักงานสถิติของเวียดนามโดยรอยเตอร์
ขณะเดียวกัน ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของเวียดนามยังคงทรงตัว แม้ธนาคารกลางได้ขายเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อพยุงค่าเงินดอง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มิ.ย. 67)
Tags: เวียดนาม, ไซ่ง่อน คอมเมอร์เชียล แบงก์