นายเพอร์รี วาร์จิโย ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซียเปิดเผยว่า อินโดนีเซียปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2564 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 4.6% เหลือเป็นขยายตัว 3.8% จากการประเมินผลกระทบของมาตรการควบคุมโควิด-19
ขณะนี้ อินโดนีเซียซี่งมีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในอาเซียน กำลังเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 ที่ย่ำแย่ที่สุดในภูมิภาคนี้ โดยยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตยังคงทะยานขึ้นต่อเนื่อง และโรงพยาบาลต่างๆ ต้องแบกรับภาระการรักษาผู้ป่วยจนเกินขีดจำกัด
ทั้งนี้ รัฐบาลอินโดนีเซียได้ประกาศมาตรการควบคุมด้านต่างๆ ในพื้นที่เกาะชวาและเกาะบาหลีแล้ว พร้อมประกาศใช้มาตรการเพิ่มเติมในพื้นที่อื่นๆ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินโดนีเซียเปิดเผยว่า จะใช้มาตรการควบคุมระหว่างวันที่ 3-20 ก.ค. และอาจมีการประกาศขยายระยะเวลาต่อไปหากมีความจำเป็น โดยกระทรวงการคลังของอินโดนีเซียได้ประเมินตัวเลข GDP บนการคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลจะประกาศใช้มาตรการเป็นระยะเวลา 4-6 สัปดาห์
นายวาร์จิโยกล่าวว่า ตัวเลขคาดการณ์ใหม่ของธนาคารกลางอินโดเซียมาจากการอนุมานว่า มาตรการจำกัดการเดินทางจะช่วยให้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงได้ภายใน 1 เดือน
“ก่อนหน้านี้เราประเมินว่า GDP ของอินโดนีเซียจะขยายตัวในช่วง 4.1% ถึง 5.1% ในปีนี้ หรือตรงจุดกึ่งกลางอยู่ที่ 4.6%” นายวาร์จิโยเปิดเผยต่อที่ประชุมคณะกรรมการด้านงบประมาณของรัฐสภา อย่างไรก็ดี “สำหรับข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2564 ขณะนี้ ธนาคารคาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำกว่าการคาดการณ์เดิม”
นายวาร์จิโย อธิบายเพิ่มเติมว่า “หากรัฐบาลบังคับใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อจำกัดการเดินทางเป็นเวลา 1 เดือน และสามารถทำให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงได้ เศรษฐกิจของอินโดนีเซียก็จะยังสามารถขยายตัวได้โดยลดลงสู่ระดับ 3.8%”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ค. 64)
Tags: GDP, อินโดนีเซีย, เพอร์รี วาร์จิโย, เศรษฐกิจอินโดนีเซีย