ข่าว
แนวโน้มดัชนีหุ้นไทยเช้าปรับขึ้นต่อตามภูมิภาคคาดหวังเฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย
พ.ย.
นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ดีดขึ้นต่อตามตลาดหุ้นเอเชียตอบรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐออกมาต่ำคาด ทำให้นักลงทุนเชื่อว่าเฟดจะยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น กดบอนด์ยีลด์ปรับตัวลงต่อเนื่อง และค่าเงินบาทแข็งค่าเป็นโอกาสต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทย ให้แนวรับไว้ที่ 1,415-1,410 จุด และแนวต้าน 1,430-1,450 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดปรับตัวขึ้นต่อตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ตอบรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐออกมาเพียง 150,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี หรือนับตั้งแต่เดือน ม.ค.64 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 188,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้นักลงทุนมั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 10 ปีปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์
ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่า มองเป็นโอกาสต่างชาติชะลอการขายและกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทย
ให้แนวรับไว้ที่ 1,415-1,410 จุด และแนวต้าน 1,430-1,450 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (3 พ.ย.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,061.32 จุด เพิ่มขึ้น 222.24 จุด หรือ +0.66%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,358.34 จุด เพิ่มขึ้น 40.56 จุด หรือ +0.94% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,478.28 จุด เพิ่มขึ้น 184.09 จุด หรือ +1.38%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,450.82 จุด เพิ่มขึ้น 500.93 จุด หรือ +1.56% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,913.54 จุด เพิ่มขึ้น 249.42 จุด หรือ +1.4% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,047.13 จุด เพิ่มขึ้น 16.33 จุด หรือ +0.53%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 พ.ย.66) 1,419.76 จุด เพิ่มขึ้น 15.77 จุด (+1.12%) มูลค่าการซื้อขาย 45,779.45 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 605.05 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 พ.ย.66
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.(3 พ.ย.) ร่วงลง 1.95 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 80.51 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวลง 5.9% ในรอบสัปดาห์นี้
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23พ.ย.) อยู่ที่ 4.05 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 35.54 แข็งค่าต่อเนื่องเก็งเฟดยุติรอบขึ้นดอกเบี้ย
– นายกฯ นั่งหัวโต๊ะถกแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทสัปดาห์หน้า เคาะรายละเอียด เงื่อนไข แหล่งเงิน เบื้องต้นพร้อมชงทางเลือก “แจกถ้วนหน้าหรือไม่แจกคนรวย” พร้อมปรับคำนิยามใหม่ ไม่ทำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ปรับรัศมีการใช้เงินจาก 4 กม. เป็นอำเภอแทน ส่วนอาชีพอิสระส่อแห้วเข้าร่วมโครงการไม่ได้
– รัฐบาล” ประกาศแผนซอฟต์พาวเวอร์ สร้างรายได้ 4 ล้านล้านบาทภายใน 4 ปี ออก พ.ร.บ.ตั้งสำนักงาน Thailand Creative Content Agency เปิดอบรม 20 ล้านคน พัฒนา 11 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์สู่เวทีโลก วธ.จับมือ ศศินทร์ ทำตัวชี้วัดสถิติทางวัฒนธรรม
– “ท่องเที่ยว” มั่นใจพลัง “ซอฟต์พาวเวอร์” ไทยเพิ่มขีดแข่งขันบนเวทีโลก “นายกสมาคมโรงแรมไทย” หนุนปั้นดิจิทัลคอนเทนต์ดึงทัวริสต์ ผู้ว่าฯ ททท.ชี้ได้อานิสงส์ท่องเที่ยวโต “บอย-ถกลเกียรติ” แนะรัฐตีโจทย์ซอฟต์พาวเวอร์ให้ดี อ้อน “ซูเปอร์บอร์ดฯ” เรียกผู้ผลิตคอนเทนต์ร่วมถก
– รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า ในเดือน ธ.ค.นี้ กระทรวงแรงงานจะประกาศการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำรอบใหม่ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับแรงงานทั่วประเทศไทย แต่คงไม่ถึงวันละ 400 บาทตามที่นายกรัฐมนตรีเคยประกาศไว้ เพราะเมื่อพิจารณาข้อมูลเบื้องต้นโดยนำเงินเฟ้อและอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจมาประกอบกัน พร้อมทั้งการเดินสายรับฟังความคิดเห็นของนายจ้าง และลูกจ้าง การปรับขึ้นค่าจ้างรอบนี้แต่ละจังหวัดจะปรับขึ้นไม่เท่ากัน โดยปรับสูงสุดคือหลักสิบเท่านั้น
– OR (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 19.60 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 ที่ 3.9 พันลบ.โต YoY, QoQ จากกำไรสต็อกน้ำมันเพิ่มขึ้น ขณะที่ไตรมาส 4/56 คาดกำไรสุทธิยังโต YoY จากค่าการตลาดน้ำมันฟื้น โดย สนพ.ระบุค่าการตลาดน้ำมันขายปลีกโดยรวมดีขึ้น 0.15 บาท/ลิตร จากเดือนก่อนหน้าเป็น 2.55 บาท/ลิตรใน ต.ค.เทียบไตรมาส 4/65 ที่ 2.05 บาท/ลิตร ขณะเดียวกันปริมาณขายน้ำมันมีแนวโน้มโตเพิ่มขึ้นอีกจากปัจจัยฤดูกาล ส่วนราคาหุ้นลดลง -9.5% พอกับ SET Index ที่ลดลง -10% ในช่วงเดียวกันนับตั้งแต่สิ้นเดือน ส.ค.66
– GULF (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า IAA Consensus 58 บาท ดักเก็งกำไรก่อนประกาศงบในช่วงปลายสัปดาห์นี้คาดกำไรทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เบื้องต้น Consensus คาดจะมีกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 ประมาณ 3.2 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 13%qoq และ 200%yoy
– BJC (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 42 บาท คาดไตรมาส 3/66 ยังไม่เด่นจากยอดขายชะลอตามปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากค่าไฟและดอกเบี้ยจ่ายเร่งตัว แต่ราคาหุ้นตอบรับงบไปมากแล้วสะท้อนจากปรับลงไป 11% นับจาก ก.ย. งวดไตรมาส 4/66 เชื่อกำไรผ่าน Bottom ค้าปลีกเตรียมเข้า High Season และได้อานิสงส์ค่าไฟลดลงเต็มไตรมาส เป็นแรงขับเคลื่อนราคาหุ้น มุม Valuation ถือว่าถูกเพราะอยู่บน PER 19.6x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี เกือบ 2 S.D.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ย. 66)
Tags: SET, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย