กองทุนบริหารความเสี่ยงหรือเฮดจ์ฟันด์ที่ลงทุนในเอเชียทำผลงานแซงหน้าเฮดจ์ฟันด์อื่น ๆ ทั่วโลกในเดือนพ.ค. และในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในหุ้นเอเชีย และกองทุนประสบความสำเร็จจากการลงทุนในตลาดหุ้นจีน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานการเปิดเผยของยูบีเอสในสัปดาห์นี้ว่า เฮดจ์ฟันด์ที่ลงทุนในหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นโดยเฉลี่ย 2.8% ในเดือนพ.ค.และ 7.5% ในเดือนม.ค.-พ.ค. ซึ่งทำผลงานได้ดีกว่าเฮดจ์ฟันด์ที่ลงทุนในหุ้นสหรัฐหรือยุโรป
เฮดจ์ฟันด์ที่ลงทุนในหุ้นสหรัฐหรือยุโรปปรับตัวขึ้นโดยเฉลี่ย 1% ในเดือนพ.ค. และ 6% ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้
ดัชนี MSCI หุ้นเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น พุ่งขึ้น 8% แล้วในปีนี้ และปรับตัวอยู่ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2565 โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นที่เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นจีน
ยูบีเอสระบุว่า การปรับตัวขึ้นของเฮดจ์ฟันด์เอเชียในเดือนพ.ค.นั้นส่วนใหญ่ได้แรงหนุนจากกองทุนที่เน้นลงทุนในจีน
กรีนวูดส์ แอสเซต แมเนจเมนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ที่สุดของเอเชียเปิดเผยว่า มูลค่ากองทุนโกลเดน ไชน่า (Golden China) ของบริษัท พุ่งขึ้น 18.3% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนพ.ค. และเพิ่มขึ้น 7% เฉพาะในเดือนพ.ค. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงานของจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มิ.ย. 67)
Tags: หุ้นจีน, เฮดจ์ฟันด์