สื่อท้องถิ่นรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (18 ก.ค.) ว่า ผู้ชุมนุมชาวบังกลาเทศหลายพันคนเดินหน้าประท้วงต่อต้านระบบการสงวนตำแหน่งงานภาครัฐ 30% ไว้สำหรับลูกหลานของทหารผ่านศึกในสงครามประกาศเอกราชจากปากีสถานเมื่อปี 2514 โดยผู้ประท้วงได้ปะทะกับตำรวจในกรุงธากาและเมืองอื่น ๆ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 400 คน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การประท้วงอย่างสันติซึ่งเริ่มขึ้นที่มหาวิทยาลัยธากาเมื่อต้นเดือนนี้ เริ่มทวีความรุนแรงตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา (15 ก.ค.) และขยายไปยังมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ทั้งในเมืองหลวงและอีกหลายเมือง
การประท้วงที่รุนแรงยังคงดำเนินต่อไป โดยในวันอังคาร (16 ก.ค.) มีรายงานผู้เสียชีวิต 6 ราย และในวันพฤหัสบดีมีผู้เสียชีวิตอีก 7 ราย โดยผู้ประท้วงได้ปิดถนนบางสายในกรุงธากาและจุดไฟเผาสถานีตำรวจ ส่งผลให้ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม
ทั้งนี้ รัฐบาลบังกลาเทศภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี เชค ฮาซีนา ซึ่งเป็นบุตรสาวของเชค มูจิบูร์ เราะห์มาน บิดาผู้ก่อตั้งประเทศบังกลาเทศ ได้ประกาศยกเลิกระบบโควตาดังกล่าวเมื่อปี 2561 หลังเผชิญกับการประท้วงครั้งใหญ่ แต่เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ศาลสูงกรุงธากาได้ตัดสินให้นำระบบดังกล่าวกลับมาใช้ตามเดิม โดยสงวนตำแหน่งงานภาครัฐ 30% ไว้สำหรับลูกหลานของ “นักต่อสู้เพื่ออิสรภาพ” เมื่อปี 2514 และอีก 26% สำหรับ “กลุ่มเปราะบาง” ซึ่งเป็นชนวนเหตุของการประท้วงครั้งนี้
ผู้ประท้วงกล่าวว่า ระบบโควตาดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อผู้สนับสนุนรัฐบาลเท่านั้น และเรียกร้องให้ยกเลิก ในขณะที่นักศึกษามหาวิทยาลัยจำนวนมากต่างพยายามหางานภาครัฐที่มีความมั่นคง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ค. 67)