นายยัต ซิว ผู้ก่อตั้งบริษัทอะนิโมคา แบรนด์ส (Animoca Brands) เปิดเผยว่า การที่กลุ่มแฮกเกอร์จารกรรมคริปโทเคอร์เรนซีมูลค่าราว 600 ล้านดอลลาร์จากบล็อกเชนโรนิน บริดจ์ (Ronin Bridge) ซึ่งเป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่ให้บริการเกมออนไลน์ “Axie Infinity” นั้น อาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทัศนคติและความรับผิดชอบของธุรกิจร่วมการลงทุน (Venture Capital – VC) ในการลงทุนกับคริปโทฯ
นายซิวกล่าวว่า การจารกรรมครั้งนี้ แฮกเกอร์สามารถขโมยเหรียญอีเธอร์ออกจากโรนิน บริดจ์ จำนวน 173,600 เหรียญ และเหรียญ USDC จำนวน 25.5 ล้านเหรียญ และสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอของบริดจ์ (Bridge) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้สามารถแปลงคริปโทฯ จากสกุลหนึ่งไปเป็นอีกสกุลหนึ่งที่ใช้ในเครือข่ายอื่น ๆ
ทั้งนี้ แฮกเกอร์ได้ทำการโจมตีคอมพิวเตอร์หลายเครื่องที่ดำเนินการโดยบริษัทสกาย มาวิส (Sky Mavis) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเกม Axie Infinity และคอมพิวเตอร์ที่ดำเนินการโดย Axie DAO ซึ่งทำหน้าที่ซัพพอร์ตบริดจ์ (Bridge) โดยบริษัทอะนิโมคา แบรนด์ส ซึ่งทำธุรกิจหลากหลายเกี่ยวกับ NFT (Non-Fungible Tokens) เป็นหนึ่งในนักลงทุนในสกาย มาวิสด้วย
การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์จารกรรมเงินคริปโทฯ ครั้งใหญ่ที่สุด และยังแสดงให้เห็นว่า บริดจ์มักจะมีช่องโหว่ที่ก่อให้เกิดปัญหา นอกจากนี้ รหัสเข้าคอมพิวเตอร์จำนวนมากที่ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข ก็อาจกลายเป็นจุดอ่อนให้แฮกเกอร์โจมตีได้
“เรื่องน่าอายที่เกิดขึ้นกับสกาย มาวิส ถือเป็นสิ่งที่โลกต้องจดจำไว้เป็นกรณีศึกษา และทำให้เราทุกคนต้องระมัดระวังมากขึ้น”
นายซิวกล่าวให้สัมภาษณ์ในการประชุม NFT LA ซึ่งจัดขึ้นที่นครลอสแอนเจลิส
นายซูกล่าวว่า บริษัทอะนิโมคากำลังเจรจาหารือกับทีมงานของสกาย มาวิสเกี่ยวกับการจ่ายเงินชดเชยให้กับนักลงทุนที่สูญเงินในครั้งนี้ ขณะเดียวกันสกาย มาวิสเปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ทางบริษัทให้คำมั่นสัญญาว่าจะจ่ายเงินชดเชยให้กับนักลงทุนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์จารกรรมในครั้งนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 มี.ค. 65)
Tags: Animoca Brands, Axie Infinity, Cryptocurrency, Ethereum, คริปโทเคอร์เรนซี, จารกรรม, บล็อกเชน, ยัต ซิว, สินทรัพย์ดิจิทัล, อะนิโมคา แบรนด์ส, แฮกเกอร์, โรนิน บริดจ์