นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษว่า วันนี้เป็นการพบปะพูดคุยกับรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ไม่ได้มีการสั่งการใดๆ เพียงแต่มอบแนวทางว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชน การปฎิบัติงานต้องมีประสิทธิภาพ ยึดหลักกฏหมาย ความชอบธรรม การจัดสรรงบประมาณต้องเหมาะสม และต้องให้เกียรติข้าราชการที่ปฎิบัติงานร่วมกัน
นายเศรษฐา กล่าวถึงนโยบายการแก้ไขปัญหาให้กับภาคเกษตรกรที่ประสบปัญหาสถานการณ์ภัยแล้งจากเอลนีโญ่ ว่า รัฐบาลใส่ใจและตระหนักดีถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยได้บรรจุเรื่องของการแก้ไขปัญหาภาคการเกษตรเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล เพื่อบรรเทาผลกระทบให้แก่เกษตรกร โดยแนวทางคือเป็นการขยายตลาด และส่งเสริมการส่งออก รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกและลดต้นทุนการผลิต เพื่อเพิ่มรายได้สุทธิให้กับเกษตรกร ดังนั้นในการประชุมครม.นัดแรกนี้ จะมีมาตรการเกี่ยวกับภาคการเกษตรออกมา
ส่วนโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น นายเศรษฐา ยอมรับว่า อาจจะไม่ได้บรรจุเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล แต่ได้บรรจุเป็นนโยบายแบบกว้างๆ ครอบคลุมการขนส่งทางรางทั้งระบบ เนื่องจากรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย มีรายละเอียดจำนวนมาก ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะมีทั้งเรื่องอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม และค่าชดเชยต่างๆ แต่ยืนยันว่าจะเร่งทำให้ดีที่สุด โดยมุ่งหวังจะให้ใช้บัตรเพียงใบเดียว และต่อรถได้สะดวกยิ่งขึ้น แต่ยังตอบไม่ได้ว่าโครงการนี้จะสามารถเริ่มต้นได้ในช่วงเวลาใด
สำหรับนโยบายภาพรวมที่รัฐบาลจะแถลงต่อรัฐสภา หากมีการพาดพิงไปยังรัฐมนตรีกระทรวงใด หรือเป็นแบบข้อมูลเชิงลึก จะมอบหมายให้รัฐมนตรีกระทรวงนั้นๆ เป็นผู้ชี้แจง
นายเศรษฐา ยอมรับว่า การเข้ามาทำงานมีความกดดัน แต่ตนมีความตั้งใจจริงที่จะดูแลประชาชน ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่า การบริหารราชการอาจไม่มีความเป็นอิสระทางความคิด เพราะตระกูลชินวัตร ถือเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณนั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ขอเวลา 3 เดือนแล้ว ประชาชนจะได้รับทราบว่าตนมีอิสระทางความคิดหรือไม่ ซึ่งหากใครที่มีแนวคิดที่ดีต่อการบริหารราชการแผ่นดินก็พร้อมที่จะรับฟังทุกคน
“ผมขอเวลาในการบริหารราชการ ผมขอเวลาสัก 3 เดือน 6 เดือน แล้วสื่อค่อยมาถามอีกทีแล้วกัน ผมเชื่อว่า ผมมีอิสระทางด้านความคิดไม่ใช่แค่ครอบครัวชินวัตร รัฐบาลนี้ทำงานเพื่อประโยชน์ประชาชน ใครที่มีข้อมูล การแนะนำที่ดีผมรับฟัง”นายเศรษฐา กล่าว
ส่วนการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และระดับนายพลนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะเป็นประธานประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ด้วยตนเอง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างกำหนดวันการประชุมที่เหมาะสม และย้ำว่ายังไม่ได้พิจารณาบุคคลใดเป็นพิเศษ โดยจะดูจากอาวุโส และผลงานเป็นหลัก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ย. 66)
Tags: การเมือง, ประชุมครม., เศรษฐา ทวีสิน