สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 3/2564 หดตัวลง 1.9% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะหดตัว 2.7% และยังดีกว่าในไตรมาส 3/2563 ที่หดตัวลง 6.8% ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ออสเตรเลียประกาศล็อกดาวน์เป็นครั้งแรก
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ตัวเลข GDP ออสเตรเลียหดตัวนั้น มาจากพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญเช่นรัฐนิวเซาท์เวลส์, รัฐวิกตอเรีย และเขตเมืองหลวงออสเตรเลียต่างก็อยู่ภายใต้การล็อกดาวน์เป็นเวลาส่วนใหญ่หรือตลอดช่วงเดือนก.ค.-ก.ย.ที่ผ่านมา
มาตรการล็อกดาวน์ได้ส่งผลให้การใช้จ่ายภาคครัวเรือนลดลง 4.8% ส่วนการใช้จ่ายด้านที่เกี่ยวกับบริการโรงแรม, สันทนาการและวัฒนธรรม และการขนส่งหดตัวลงมากที่สุดที่ระดับ 5.8%
นายชอน คริก ผู้รักษาการแทนประธาน ABS เปิดเผยว่า เศรษฐกิจในพื้นที่รัฐที่ไม่ได้ประกาศล็อกดาวน์ ได้ช่วงพยุงตัวเลข GDP ของออสเตรเลียโดยรวมไม่ให้ปรับตัวมากเกินไป
“การใช้จ่ายในภาคครัวเรือนเฉพาะในรัฐนิวเซาท์เวลส์, รัฐวิกตอเรีย และเขตเมืองหลวงออสเตรเลียนั้นลดลงมากถึง 8.4% เทียบกับพื้นที่รัฐอื่น ๆ ที่ขยายตัว 0.7%” นายคริกระบุ พร้อมกับเสริมว่า “การขยายตัวของมูลค่าการค้าสุทธิและการใช้จ่ายด้านสาธารณะได้ช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากอุปสงค์ภายในประเทศที่หดตัวลง”
การที่ตัวเลข GDP ของออสเตรเลียหดตัวลงอีกครั้งในไตรมาส 3/2564 นั้น ย่อมแปลว่าเศรษฐกิจของออสเตรเลียยังคงไม่ฟื้นตัวสู่ระดับก่อนโควิด-19 แพร่ระบาด อย่างไรก็ดี นายคริกระบุว่า ตัวเลข GDP ในไตรมาสนี้อยู่ต่ำกว่าระดับของช่วงไตรมาส 4/2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดเพียง 0.2%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ธ.ค. 64)
Tags: ชอน คริก, ออสเตรเลีย, เศรษฐกิจออสเตรเลีย