เศรษฐกิจจีนอาจโตไม่ถึง 5% ปีนี้ เหตุปัจจัยกดดันเกินรับไหว

นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนอาจโตไม่ถึงเป้าหมายที่ราว 5% ในปีนี้ เว้นแต่จีนจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ข้อคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่เมื่อวานนี้ (15 ส.ค.) ทางการจีนได้ระงับการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการว่างงานของเยาวชนซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ข้อมูลอื่น ๆ ในเดือนก.ค.บ่งชี้ถึงการชะลอตัวในวงกว้างสืบเนื่องจากการที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำลง

นางวัง เทา หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจเอเชียและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของยูบีเอส อินเวสต์เมนต์ แบงก์ (UBS Investment Bank) เปิดเผยว่า ความอ่อนแอในภาคการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์จะเป็นอีกปัจจัยกดดัน จากที่แต่เดิมภาคอุตสาหกรรมก็เผชิญกับแรงกดดันในการลดสินค้าคงคลังอยู่แล้ว ทั้งยังเป็นปัจจัยกดดันความต้องการบริโภคด้วย ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจจีนโตไม่ได้ตามเป้า

นายถิ่ง ลู่ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของโนมูระ เปิดเผยว่า จีนควรรับหน้าที่เป็นผู้ให้กู้ที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายเพื่อสนับสนุนนักพัฒนารายใหญ่ ๆ รวมถึงสถาบันการเงินที่ประสบปัญหา และเป็นผู้ใช้จ่ายที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ในภาพรวม โดยจีนเผชิญกับแรงกดดันซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจจีนโตไม่ถึงที่โนมูระคาดการณ์ไว้ที่ 4.9% ในไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ และจะส่งผลให้ทั้งปีเศรษฐกิจจีนโตไม่ถึง 5% ตามเป้า

ทั้งนี้ข้อมูลของธนาคารโลกระบุว่า จีนเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก โดยคิดเป็นเกือบ 18% ของ GDP โลกในปี 2565

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ส.ค. 66)

Tags: ,