เดลซี โรดริเกซ รองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของเวเนซุเอลา เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันของประเทศยังคงอยู่ในระดับ “ปกติ” ณ เวลานี้ แม้ถูกรัฐบาลสหรัฐฯ กดดันด้วยการห้ามบริษัทพลังงานดำเนินงานในเวเนซุเอลา
โรดริเกซโพสต์ข้อความผ่านทางเทเลแกรมเมื่อวันจันทร์ (31 มี.ค.) ว่า อุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลา รวมถึงเปโตรเลออส เด เวเนซุเอลา (Petroleos de Venezuela หรือ PDVSA) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาล กำลังดำเนินการตามแผนที่วางไว้เพื่อเพิ่มการผลิตในแหล่งต่าง ๆ
“บริษัทข้ามชาติที่ดำเนินงานในประเทศโดยไม่มีใบอนุญาตจากรัฐบาลต่างประเทศกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่” โรดริเกซกล่าว พร้อมเสริมว่า บริษัทข้ามชาติที่ถูกสหรัฐฯ เพิกถอนใบอนุญาตไม่ให้ดำเนินธุรกิจในเวเนซุเอลา ยังสามารถเข้าร่วมการผลิตต่อไปได้ ภายใต้กรอบสัญญาที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย
สำหรับการผลิตก๊าซธรรมชาติ โรดริเกซย้ำว่า PDVSA ยังคงรักษาการผลิตที่เพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศ
ขณะเดียวกัน โรดริเกซยังแสดงจุดยืนคัดค้านการที่สหรัฐฯ เพิกถอนใบอนุญาตของบริษัทน้ำมันข้ามชาติที่ทำธุรกิจในเวเนซุเอลา โดยย้ำว่าเวเนซุเอลาไม่ยอมรับและไม่เห็นชอบกับการใช้อำนาจนอกอาณาเขตของรัฐบาลต่างประเทศ
บริษัทข้ามชาติที่ได้รับแจ้งการเพิกถอนใบอนุญาตจากสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ ประกอบด้วย เรปโซล (Repsol) ของสเปน, เอนิ (Eni) ของอิตาลี, โกลบอล ออยล์ เทอร์มินัลส์ (Global Oil Terminals) ของสหรัฐฯ, โมเรล แอนด์ พรอม (Maurel & Prom) ของฝรั่งเศส และรีไลแอนซ์ อินดัสทรีส์ (Reliance Industries) ของอินเดีย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งห้ามบริษัทพลังงานสหรัฐฯ ดำเนินงานในเวเนซุเอลาตั้งแต่เดือนมี.ค. ซึ่งถือเป็นการยุติการผ่อนผันบางส่วนภายใต้รัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากการคว่ำบาตรที่เริ่มบังคับใช้กับเวเนซุเอลาในปี 2562
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีรอง (secondary tariff) ในอัตรา 25% ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. กับประเทศที่ซื้อผลิตภัณฑ์ก๊าซและน้ำมันของเวเนซุเอลา โดยอ้างว่าเป็นมาตรการลงโทษต่อการที่มีผู้ลี้ภัยและผู้อพยพชาวเวเนซุเอลาหลั่งไหลเข้าสู่สหรัฐฯ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 เม.ย. 68)
Tags: อุตสาหกรรมน้ำมัน, เวเนซุเอลา