รัฐบาลเวียดนามประกาศลดภาษีนำเข้าสินค้าสำคัญหลายรายการ ทั้งรถยนต์ ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และสินค้าเกษตร โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์ (31 มี.ค.) การปรับลดครั้งนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อลดความเสี่ยงที่จะถูกสหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีตอบโต้ หลังจากเวียดนามเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ เป็นจำนวนมาก
สหรัฐฯ ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ได้เรียกร้องให้เวียดนามลดตัวเลขการเกินดุลการค้ามาโดยตลอด โดยในปีที่แล้ว เวียดนามเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ สูงถึง 1.235 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงเป็นอันดับสามรองจากจีนและเม็กซิโก เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ รวมถึงผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ได้กระตุ้นให้เวียดนามเปิดรับสินค้านำเข้ามากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีสัญญาณว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อาจพิจารณาใช้มาตรการทางภาษี หากสถานการณ์ไม่คลี่คลาย
ตามแถลงการณ์จากเว็บไซต์รัฐบาล การลดภาษีครั้งนี้รวมถึงการปรับลดภาษีรถยนต์บางประเภทจากเดิมที่สูงถึง 64% ลงมาเหลือ 32% และลดภาษีก๊าซ LNG จาก 5% เหลือเพียง 2% ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากสหรัฐฯ ให้เวียดนามแก้ไขปัญหาการเกินดุลการค้า และเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการค้าให้ดีขึ้น
นอกเหนือจากรถยนต์และ LNG แล้ว เวียดนามยังได้ปรับลดภาษีเอทานอลจาก 10% เหลือ 5% และลดภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรหลายชนิด เช่น แอปเปิลสด ไก่แช่แข็ง อัลมอนด์ และเชอร์รี่ อีกด้วย
การตัดสินใจลดภาษีครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจเวียดนาม ซึ่งพึ่งพาการส่งออกเป็นอย่างมาก โดยคิดเป็นประมาณ 85% ของ GDP ในปีที่แล้ว นักวิเคราะห์ต่างแสดงความกังวลว่า หากสหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีจริง อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงานในเวียดนาม
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลังเวียดนามได้เสนอให้มีการลดภาษีเหล่านี้ โดยให้เหตุผลว่าเป็นการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองโลกที่ซับซ้อนและคาดเดาไม่ได้ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายการค้าและภาษีศุลกากร
ล่าสุด โต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ยังได้ยืนยันระหว่างการพบปะกับเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำเวียดนามเมื่อวานนี้ ถึงความมุ่งมั่นของเวียดนามที่จะเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ก๊าซ LNG และสินค้าไฮเทค
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 เม.ย. 68)
Tags: ภาษีนำเข้า, เวียดนาม