รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า พรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับเอ็มโอยูของพรรคก้าวไกล เนื่องจากมีเนื้อหาที่ลงลึกไปในรายละเอียด โดยยึดนโยบายของพรรคก้าวไกลเป็นหลัก ได้แก่ คืนความยุติธรรมจากผู้ได้รับผลกระทบรัฐประหาร, ผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมคดีการเมือง โดยไม่รวมความผิดคดีคอร์รัปชั่น และเป็นอันตรายต่อชีวิตและร่างกาย โดยเฉพาะ พรรคเพื่อไทย ที่มองว่าหากผลักดันเรื่องดังกล่าวจะถูกโยงว่าทำไปเพื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และจะไม่ร่วมเซ็นในเอ็มโอยูหากมีประเด็นนี้ แต่หากพรรคก้าวไกลจะเสนอในนามพรรคในวาระต่อไปก็ไม่ติดใจ
นอกจากนี้ยังมีประเด็นยกเลิกการผูกขาดอุตสาหกรรมผลิตสุรา และผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งประเด็นนี้พรรคประชาชาติ (ปชช.) ไม่เห็นด้วย เพราะขัดกับหลักศาสนาอิสลามที่เป็นฐานเสียงหลักของพรรค
ทั้งนี้จากประเด็นที่พรรคก้าวไกลเสนอมาในเอ็มโอยูนั้นทุกพรรคเห็นว่าเป็นประเด็นที่ผูกมัดและบีบให้ทุกพรรคยอมรับในเงื่อนไขของก้าวไกลมากเกินไป จึงอยากให้ปรับปรุง โดยเขียนเป็นหลักการกว้างๆ ไว้ก่อนแล้วค่อยนำนโยบายของแต่ละพรรคมาปรับใช้ในภายหลัง แต่ยังไม่มีการพูดถึงการแก้กฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งประเด็นนี้ทุกพรรคเห็นด้วย เพราะไม่มีใครอยากให้นำประเด็นนี้มาผูกมัดในเอ็มโอยู
รายงานข่าว แจ้งอีกว่า ในเอ็มโอยูยังได้ระบุถึงการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีว่าจะคำนึงถึงความเป็นธรรม เหมาะสม และสอดคล้องกับนโยบายพรรค ให้เกียรติ จริงใจ สนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกัน หากใครได้ตำแหน่งรัฐมนตรีแล้วประพฤติในทางมิชอบต้องยุติการดำรงตำแหน่ง แต่ในเรื่องของการจัดสรรโควตารัฐมนตรีนั้น แกนนำพรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้รับการประสานอย่างเป็นทางการเข้ามาจากแกนนำพรรคก้าวไกล และยังไม่อยากให้คุยไปไกลถึงเรื่องดังกล่าว อยากให้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับเอ็มโอยูจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยก่อน และแปลกใจกับข่าวที่ออกมาเช่นนี้ไม่เข้าใจว่าคนที่ปล่อยมีเจตนาจองเก้าอี้ไว้ก่อนหรือไม่อย่างไร เพราะปกติการแบ่งโควตานั้นต้องรอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรอง ส.ส.อย่างเป็นทางการแล้วค่อยนำจำนวน ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลมาเฉลี่ยว่าแต่ละพรรคควรได้กี่เก้าอี้ อย่างไร เช่นเดียวกับตำแหน่งประธานรัฐสภาที่ทาง พท. ยังไม่ได้รับการประสานมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ค. 66)
Tags: MOU, การเมือง, นโยบายพรรค, พรรคก้าวไกล, พรรคเพื่อไทย, เลือกตั้ง, เอ็มโอยู