นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ โฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แจงคุณสมบัติ 5 ประการของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ที่มีความเหมาะสมในการก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย
ข้อที่ 1 เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากประชาชน เพราะลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ผ่านการเลือกตั้งจากประชาชนทั้งประเทศตามวิถีประชาธิปไตย
ข้อที่ 2 เป็นมือประสาน 10 ทิศ สามารถทำงานกับฝ่ายการเมืองได้กับทุกพรรคทุกฝ่าย โดยเป็นผู้ประสานจัดตั้งรัฐบาลเมื่อปี 2562 ที่ประชาชนให้การยอมรับว่าช่วยแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ไม่เกิดการแบ่งสีแบ่งขั้ว
ข้อที่ 3 สามารถทำงานร่วมกับข้าราชการและเข้าถึงคนรุ่นใหม่ โดยเปิดโอกาสให้เยาวชน นิสิต นักศึกษา เข้าพบเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันบ่อยครั้งอย่างเป็นกันเอง
ข้อที่ 4 เป็นผู้มากบารมี สามารถเชื้อเชิญบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ให้มาร่วมกันแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน และทำงานขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้าโดยไม่สะดุด หรือไร้รอยต่อระหว่างเปลี่ยนผ่านรัฐบาล
ข้อที่ 5 เป็นนายกรัฐมนตรีที่ทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ เกิดความมั่นคงตลอดระยะเวลา 4 ปี โดยไม่ต้องเปลี่ยนตัวผู้นำกลางคัน ทำให้เกิดความต่อเนื่อง และเกิดความเชื่อมั่นทั้งประชาชนคนไทยและนักลงทุนต่างชาติ
โฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร มีความพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะเดินช้าแต่ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในทุกเรื่อง หวังให้ประชาชนพ้นจากความยากจนและคลายทุกข์ลงได้ ทั้งปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง และปัญหาปากท้อง
“เช่นเดียวกับครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร จะขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยสมอง สองมือ และประสบการณ์ที่มีของตัวท่านเอง ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข และประชาชนอยู่ดีกินดี ขอเพียงพี่น้องประชาชนเปิดใจเลือก พล.อ.ประวิตร และเลือกพรรคพลังประชารัฐ เข้ามาทำหน้าที่ เพื่อทลายปัญหาความขัดแย้ง และนำพาประเทศไทยก้าวข้ามความยากจนไปได้อย่างยั่งยืน”
นายชาญกฤช กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ค. 66)
Tags: การเมือง, ชาญกฤช เดชวิทักษ์, นโยบายหาเสียง, พปชร., พลังประชารัฐ, เลือกตั้ง