น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 16 พร้อมด้วยนายวินท์ สุธีรชัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคก้าวไกล ในฐานะหัวหน้ากลุ่มใส่ใจ แถลงข่าวเปิดตัวภายใต้นโยบายเมืองปลอดภัย ภายใต้แนวคิด “กรุงเทพฯ ต้องปลอดภัยสำหรับทุกคน” โดยกำหนดแผนการทำงานออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว และเน้นให้ความสำคัญกับเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ LGBTQ และผู้ด้อยโอกาส
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวต่อว่า แม้จะเป็นผู้สมัครใหม่ในวงการเมือง แต่มองว่าเป็นข้อได้เปรียบ เพราะตำแหน่งผู้ว่าราชการไม่ใช่ตำแหน่งที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เนื่องจากมีหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบในการดูแลส่วนต่างๆ อยู่แล้ว เช่น ถนน เสาไฟฟ้า สายสื่อสาร การทำงานของกรุงเทพฯ จึงต้องอาศัยการประสานงาน ซึ่งเราสามารถทำงานได้กับทุกพรรคการเมือง ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ที่มีนโยบายที่ดีเพื่อประชาชนและเป็นคนดี จึงมองว่าหากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมาจากสังกัดพรรคใดพรรคหนึ่งก็จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่
สำหรับการทำงานของกลุ่มใส่ใจ ยึดหลักภายใต้หลักการ 3 อย่าง คือ อำนาจต้องมาจากประชาชน, ไม่ยอมรับการคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ และการบริหารงานอย่างมืออาชีพตามหลักสากล
“สำหรับนโยบายผู้ว่า กทม. ของกลุ่มใส่ใจ แบ่งเป็น 3 ด้าน ประกอบด้วย ความปลอดภัยในชีวิต-ทรัพย์สิน และสุขภาพ, ความปลอดภัยในด้านคุณภาพชีวิตของผู้คน และการขยายอนาคตทางการศึกษาให้เด็กและเยาวชน มองว่า กทม.บอบช้ำมากพอแล้ว ถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องมาใส่ใจ กทม. จึงขอโอกาสในการทำงานกับคน กทม. และสัญญาจะดูแลทุกเรื่องด้วยความใส่ใจ” น.ส.ศศิกานต์ กล่าว
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า พื้นเพเดิมเป็นคนจังหวัดตรัง แต่อยู่กรุงเทพฯ มาตั้งแต่อายุ 15 ปี จึงรับรู้ปัญหาของกรุงเทพฯ มาตลอด มีประสบการณ์ตรงถึงความลำบากของคนกรุงเทพฯ ทั้งการเดินตกท่อ ตกรถเมล์ นั่งรถเมล์ตั้งแต่ต้นสายถึงปลายสายจึงรู้ถึงความลำบากของคนที่ต้องนั่งรถเมล์เป็นเวลานาน ขณะนี้จึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะช่วยกรุงเทพฯ เพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
ด้านนายวินท์ กล่าวว่า ผู้สมัครผู้ว่า กทม.ส่วนใหญ่เป็นตัวแทนของพรรคใหญ่ และเป็นชายวัยกลางคน โดยสถิติชายวัยกลางคนเป็นจำนวนที่น้อยใน กทม.คนส่วนใหญ่ในกทม.เกือบ 60% จะเป็นผู้หญิง จึงเสนอ น.ส.ศศิกานต์ ที่เป็นผู้รู้จริง จะเป็นตัวแทนกลุ่มคนที่มากสุดในกทม. แต่เป็นเสียงที่น้อยที่สุด
สำหนับนโยบายด้านบริหารของกลุ่มของกลุ่มใส่ใจ ด้านนโยบายสุขภาพ ใส่ใจปอด ลดปัญหาฝุ่น P.M.2.5 วางแผนเปลี่ยนระบบขนส่งใน กทม.เป็นพลังงานสะอาด ประกอบด้วยแผนเริ่มตั้งแต่ 2 ปี 5 ปี และ 10 ปี
ส่วนการที่ น.ส.ศศิกานต์ ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. จะเป็นการตัดคะแนนนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครในนามพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายวินท์ ยืนยันว่า การลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล จะอยู่ฝั่งไหนเราก็สามารถทำงานร่วมกันได้ ซึ่งตอนที่ตนยังดำรงตำแหน่งส.ส. ก็ไม่เคยไปทะเลาะเรื่องการเมืองกับใคร มีแต่ข้อเสนอเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องประชาชน แม้กระทั่งตอนลาออกมาก็ไม่ได้มีการไปทะเลาะกับใครทั้งนั้น ดังนั้นการสนับสนุนน.ส.ศศิกานต์ ในครั้งนี้ต้องการทำเพื่อแก้ปัญหาให้กับกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง
บรรยากาศภายในงานแถลงข่าวมีนายมาร์ค ไอน์สไตน์ เชื้อสายทายาทไอน์สไตน์มาร่วมให้กำลังใจ โดยระบุว่า อยากให้คนไทยมีความสุข โดย น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า ตนกับนายมาร์ค ไอน์สไตน์ เป็นเพื่อนกันมา 20 ปีแล้ว เราเห็นปัญหาร่วมกันมากมาย โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา เรื่องเด็ก กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่ม LGBTQ ซึ่งถือเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ของ กทม. แต่กลุ่มคนเหล่านี้ยังไม่มีใครที่จะมาเป็นผู้แทน เป็นปากเป็นเสียง และช่วยแก้ปัญหาให้กับพวกเขาอย่างแท้จริง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 เม.ย. 65)
Tags: วินท์ สุธีรชัย, ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์, เลือกตั้งผู้ว่ากทม