นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาปศุสัตว์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตให้มีคุณภาพที่แข่งขันกับต่างประเทศได้ พร้อมป้องกันการระบาดรุนแรงของโรคต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายให้กับเกษตรกร ซึ่งเมื่อวันที่ 13 ส.ค.67 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2567 งบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อควบคุมโรคลัมปีสกินในโคและกระบือ เพื่อดำเนินการจัดซื้อวัคซีนป้องกันจำนวน 7.85 ล้านโดส
โดยในปี 2568 จังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดแรกที่ได้รับวัคซีนจำนวนกว่า 8 หมื่นโดส ครอบคลุมจำนวนประชากรโคและกระบือทั้งจังหวัด ซึ่งจะเป็นพื้นที่นำร่องการสร้างพื้นที่ปลอดโรค (Regionalization) และการสร้างคอกกักเพื่อการส่งออกตามแผนของกรมปศุสัตว์ จากนั้นในวันที่ 28 ก.พ.68 จะมีการจัดสรรวัคซีนครั้งที่ 2 ให้กับจังหวัดตาก และกระจายไปยังจังหวัดอื่นทั่วประเทศต่อไป
โรคระบาดในสัตว์เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ของไทย โดยเฉพาะโรคปากและเท้าเปื่อยและโรคลัมปีสกิน ดังนั้นการป้องกันและควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพไม่ให้มีการเกิดโรคภายในประเทศ ร่วมกับการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคลัมปีสกินให้กับโคและกระบือในพื้นที่ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ต่างประเทศยอมรับและเชื่อมั่นในสินค้าปศุสัตว์ของไทยเพิ่มขึ้น ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำลังเร่งเจรจาเปิดตลาดส่งออกโคมีชีวิตและผลิตภัณฑ์ไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาของสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) หากสำเร็จจะช่วยกระตุ้นราคาและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรไทย
ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถขอรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกินได้ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด หรือสำนักงานปศุสัตว์อำเภอใกล้บ้าน หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินงานดังกล่าวของกรมปศุสัตว์ในพื้นที่ เช่น สหกรณ์โคนม/ศูนย์รับน้ำนม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.พ. 68)
Tags: อนุกูล พฤกษานุศักดิ์, โรคลัมปีสกิน