สถาบันโรเบิร์ต คอช (RKI) ของเยอรมนีเผยว่า อัตราการอุบัติของโรคโควิด-19 ในรอบ 7 วันของเยอรมนีเพิ่มขึ้นเป็น 110.1 รายต่อประชาชน 100,000 คน จากตัวเลข 74.4 รายเมื่อสัปดาห์ก่อน
สถาบัน RKI ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยด้านการควบคุมและป้องกันโรคของรัฐบาลเยอรมนีระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันของเยอรมนีเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนราว 2,500 ราย มาอยู่ที่ 6,573 ราย โดย RKI ได้แนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากทุกวันแม้จะเข้ารับการตรวจหาเชื้อ ฉีดวัคซีน หรือหายจากโรคโควิด-19 แล้วก็ตาม
สำนักข่าวซินหัวไทยรายงานว่า เยอรมนีมีผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้วกว่า 55.1 ล้านคน เมื่อนับถึงวันอาทิตย์ (24 ต.ค.) ทำให้อัตราการฉีดวัคซีนอยู่ที่ 66.2% ขณะที่มีกลุ่มวัยรุ่นวัย 12-17 ปีฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว 40.1%
ปัจจุบันเยอรมนีกำลังพิจารณาว่าจะขยายเวลาใช้มาตรการควบคุมภายใต้ “สถานการณ์การแพร่ระบาดระดับประเทศ” ซึ่งจะสิ้นสุดลงในช่วงสิ้นเดือนพ.ย.นี้ออกไปหรือไม่ โดยสภาบุนเดสทาก หรือสภาล่างของรัฐสภาเยอรมนีประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าวเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมี.ค.2563
นายเจนส์ สปาห์น รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเยอรมนีให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ ซีดีเอฟ (ZDF) ว่า โดยส่วนตัวแล้วเขาคิดว่าเยอรมนีสามารถยุติภาวะฉุกเฉินที่รัฐสภากลางกำหนดขึ้นได้แล้ว เนื่องจาก 4 ใน 5 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ส่วนสิ่งที่ต้องทำในปัจจุบันคือการหาสมดุลระหว่างภาวะฉุกเฉินระดับชาติและภาวะที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ต.ค. 64)
Tags: COVID-19, XINHUA, เยอรมนี, โควิด-19