นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 4 ล้านล้านดอลลาร์ที่เสนอโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนนั้น เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ว่าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น และอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ตาม
“หากเราสร้างสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ก็อาจจะเป็นผลดีต่อมุมมองของสังคมและมุมมองของเฟด ที่ผ่านมาเราได้ต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำเกินไปและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเกินไปมาเป็นเวลานานนับทศวรรษแล้ว” นางเยลเลนกล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กในระหว่างเดินทางกลับจากการประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่ม G7 ที่กรุงลอนดอนเมื่อวานนี้
“เราต้องการให้พวกเขากลับไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับปกติ และหากสิ่งนี้จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นเล็กน้อย ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่กลับเป็นเรื่องที่ดี”
เยลเลนกล่าว
การแสดงความเห็นของนางเยลเลนเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ปธน.ไบเดินยังคงเรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมถึงสร้างงานและช่วยเหลือครัวเรือนในสหรัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ออกร่างกฎหมาย American Jobs Plan วงเงิน 2.3 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และร่างกฎหมาย American Families Plan วงเงิน 1.8 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาครัวเรือนสหรัฐจากผลกระทบของโควิด-19
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มิ.ย. 64)
Tags: American Families Plan, American Jobs Plan, ธนาคารกลางสหรัฐ, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ, สภาคองเกรส, เจเน็ต เยลเลน, เฟด, เศรษฐกิจสหรัฐ, โจ ไบเดน