ดีน หลี่ ประธานฝ่ายปฏิบัติการวิจัยของเมอร์คเปิดเผยในการประชุมของเจพีมอร์แกนเมื่อวันจันทร์ (10 ม.ค.) ว่า ยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) ของทางบริษัท มีกลไกการออกฤทธิ์ที่สามารถต้านไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนและสายพันธุ์อื่น ๆ ได้
ผู้บริหารจากเมอร์ครายนี้กล่าวว่า “เรามั่นใจมาก ๆ ว่ายาจะออกฤทธิ์กับสายพันธุ์โอมิครอน … กลไกระดับโมเลกุลนี้จะจัดการสายพันธุ์โอมิครอนได้ และผมคาดว่าน่าจะได้ผลกับสายพันธุ์อื่น ๆ ด้วย”
ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลจากการทดลองยาโมลนูพิราเวียร์กับสายพันธุ์โอมิครอน มีเพียงผลการทดลองล่าสุดเมื่อเดือนพ.ย.ที่พบว่า ยาโมลนูพิราเวียร์ของเมอร์คลดความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือการเสียชีวิตลงประมาณ 30% เมื่อทดลองให้ยาแก่ผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนและมีความเสี่ยงสูงว่าจะป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิต อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับที่เคยรายงานก่อนหน้านี้ว่าลดความเสี่ยงลงได้ 50%
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ได้อนุมัติยาโมลนูพิราเวียร์แล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และอินเดีย และมีหลายประเทศเซ็นสัญญาซื้อแล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยาโมลนูพิราเวียร์ เป็นยาเม็ดสำหรับรักษาโรคโควิด-19 ซึ่งก่อนหน้านี้เมอร์คเคยระบุว่า มีประสิทธิภาพต้านไวรัสโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ที่ผ่านมา รวมถึงสายพันธุ์เดลตา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ม.ค. 65)
Tags: COVID-19, Molnupiravir, ดีน หลี่, เมอร์ค แอนด์ โค, โควิด-19, โมลนูพิราเวียร์, โอมิครอน