ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศว่า การทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ของภาคธนาคารในปี 2568 จะมุ่งเน้นไปที่การทดสอบผลกระทบของธนาคารรายใหญ่ที่ปล่อยกู้ในตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์และเพื่อการอยู่อาศัย
เฟดระบุเมื่อวันพุธ (5 ก.พ.) ว่า การทดสอบภาวะวิกฤตประจำปีในปี 2568 จะครอบคลุมถึงองค์ประกอบเพิ่มเติมที่จะใช้ในการทดสอบวิกฤตการณ์ในธุรกิจนอกภาคธนาคาร รวมทั้งผลกระทบของวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับกองทุนเฮดจ์ฟันด์ขนาดใหญ่จำนวนมากที่จะมีต่อสถานะการเงินของธนาคารรายใหญ่
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สถานการณ์จำลองครั้งใหม่นี้ส่วนใหญ่เป็นไปในแนวทางเดียวกับสถานการณ์จำลองในปี 2567 ที่เฟดกำหนดขึ้น เพื่อตรวจสอบว่าธนาคารรายใหญ่มีความพร้อมที่จะรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอย่างไร และจะเป็นตัวกำหนดว่าธนาคารต้องกันเงินทุนสำรองไว้เท่าใดเพื่อรองรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ในการทดสอบภาวะวิกฤตปี 2568 นั้น เฟดได้จำลองสถานการณ์ว่าอัตราว่างงานของสหรัฐฯ จะพุ่งขึ้น 5.9% แตะที่ระดับ 10% พร้อมกับราคาบ้านที่ทรุดตัวลง 33% และราคาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ปรับตัวลง 30% นอกจากนี้ ธนาคารรายใหญ่ที่มีการทำธุรกิจด้านเทรดดิ้งอย่างมีนัยสำคัญจะถูกทดสอบว่าจะได้รับผลอย่างไรกับการล้มละลายของคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด
ส่วนในการทดสอบภาวะวิกฤตเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมานั้น ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ทั้ง 31 แห่งของสหรัฐฯ สามารถรับมือกับเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงทั่วโลกได้ ขณะเดียวกันก็ยังสามารถรักษาศักยภาพในการปล่อยเงินกู้ให้กับลูกค้าและภาคเอกชน
ทั้งนี้ ในปี 2567 เฟดได้ทำการจำลองสถานการณ์การขาดทุนของภาคธนาคาร ซึ่งพบว่าธนาคารพาณิชย์มีการขาดทุนรวมกัน 6.85 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงการขาดทุนจากธุรกิจบัตรเครดิตจำนวน 1.75 แสนล้านดอลลาร์, ขาดทุนจากการปล่อยเงินกู้ให้กับภาคธุรกิจจำนวน 1.42 แสนล้านดอลลาร์ และขาดทุนเกือบ 8 หมื่นล้านดอลลาร์จากการปล่อยกู้ให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.พ. 68)
Tags: Stress Test, ธนาคารกลางสหรัฐ, ปล่อยกู้, อสังหาริมทรัพย์, เฟด