ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจใน 12 เขตของสหรัฐหรือ Beige Book เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า ภาคเอกชนในหลายเขตของสหรัฐคาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงหลายเดือนข้างหน้าจะชะลอตัวลง
รายงาน Beige Book ซึ่งเฟดเผยแพร่ปีละ 4 ครั้งระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วสหรัฐมีการขยายตัวปานกลางในช่วงหลายสัปดาห์ของปลายปี 2564 ส่วนการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ไวรัสโควิด-19 จะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม เขตส่วนใหญ่รายงานว่า กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางเพื่อสันทนาการ, การจองโรงแรม และการรับประทานอาหารในร้านได้ชะลอตัวลงอย่างฉับพลัน เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ส่วนในประเด็นเงินเฟ้อนั้น เฟดเกือบทุกสาขารายงานว่า ราคาสินค้าที่ขายให้กับผู้บริโภคนั้นพุ่งขึ้นอย่างมาก ขณะที่เฟดบางสาขาระบุว่า ราคาสินค้าชะลอตัวลงเล็กน้อย จากที่เคยพุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
การเปิดเผยรายงาน Beige Book ของเฟดมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 7.0% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2525 อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
ด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวันอังคารว่า เฟดจะใช้ความพยายามในการสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ แม้จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ก็ตาม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ม.ค. 65)
Tags: ธนาคารกลางสหรัฐ, สหรัฐ, เจอโรม พาวเวล, เฟด, เศรษฐกิจสหรัฐ