ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศห้ามเมื่อวานนี้ (21 ต.ค.) ไม่ให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดทำการซื้อขายหุ้นรายตัว และได้เปิดเผยข้อจำกัดอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับกิจกรรมการลงทุน หลังจากที่รายงานการซื้อขายหุ้นของผู้กำหนดนโยบายของเฟดเมื่อราว 6 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ทำให้เกิดกรณีอื้อฉาวทางด้านจริยธรรม
ข้อกำหนดใหม่จะจำกัดประเภทของหลักทรัพย์ทางการเงินซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดสามารถครอบครอง รวมไปถึงการห้ามซื้อหุ้นรายตัว หรือถือครองหุ้นกู้รายตัว รวมถึงหลักทรัพย์ที่ค้ำประกันโดยหน่วยงาน ตลอดจนกำหนดให้เจ้าหน้าที่เฟดแจ้งและขออนุมัติการทำธุรกรรมใด ๆ ล่วงหน้า 45 วัน และต้องถือครองการลงทุนไว้อย่างน้อย 1 ปี
เฟดระบุว่า กฎเกณฑ์ใหม่จะช่วยป้องกันเรื่องการเกิดผลประโยชน์ทับซ้อนในช่วงเวลาที่มีการตัดสินใจด้านการลงทุน
เฟดประกาศกฎเกณฑ์ใหม่ดังกล่าว หลังจากที่ประธานเฟดภูมิภาค 2 ใน 12 คน ซึ่งได้แก่นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน และนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส ได้ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากมีรายงานเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นของประธานเฟดทั้งสองคนดังกล่าวในปี 2563 ขณะที่เฟดดำเนินความพยายามอย่างมากที่จะรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากโรคโควิด-19 ซึ่งความพยายามของเฟดนั้น ได้ช่วยหนุนตลาดการเงินอย่างมาก
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดจะถูกห้ามซื้อขายหุ้นรายตัว และการซื้อหุ้นจะถูกจำกัดอยู่ที่การซื้อกองทุนรวม นอกจากนี้ การทำธุรกรรมทั้งหมดจะถูกตรวจสอบล่วงหน้าโดยเจ้าหน้าที่ด้านจริยธรรมของเฟด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดยังคงสามารถถือครองหุ้นรายตัวที่ครอบครองอยู่เมื่อเข้ารับตำแหน่งในเฟดได้ต่อไป แต่จะต้องถือครองไว้เป็นระยะเวลา 1 ปี และต้องแจ้งล่วงหน้าเมื่อจะขายหุ้นรายตัวนั้น ๆ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ต.ค. 64)
Tags: Fed, ซื้อขายหุ้น, ธนาคารกลางสหรัฐ, เฟด