พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่ม 1 การบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผู้ช่วยผบ.ทบ.) อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวอาจได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประธานฯ หรือรองประธานวุฒิสภาว่า ค่อนข้างหนักใจ เพราะมีข่าวจะมีกลุ่มสีและกลุ่มอิสระส่งตัวแทนมาแข่งขันชิงตำแหน่ง โดยทุกคนมีโอกาสด้วยกันทั้งนั้น เพราะคนที่เข้ามาทำหน้าที่เป็น สว.ต่างก็มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และไม่กังวลที่ถูกมองว่ามีภาพลักษณ์เป็นทหาร คิดแค่ว่าต้องทำงานเพื่อส่วนรวมเท่านั้น ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะเข้ามาทำหน้าที่และผลักดันเรื่องความมั่นคง รวมถึงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากทำงานในพื้นที่ดังกล่าวมานานและมีความเข้าใจต่อประเด็นต่าง ๆ จึงอยากนำความรู้และประสบการณ์ที่มีไปแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อสร้างสันติสุข
สิ่งที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าใครจะได้นั่งประมุขฝ่ายวุฒิสภาหรือตำแหน่งใด ๆ ในวุฒิสภาต้องดูจากการประชุมและวิสัยทัศน์ของแต่ละคนมากกว่า เชื่อว่าทุกคนนั้นมีวิสัยทัศน์อยู่แล้ว หากมีใครเสนอชื่อเข้าชิงประธานวุฒิสภาจริงก็คงต้องรีบเรียงประเด็นวิสัยทัศน์ของตัวเองเช่นกัน สิ่งสำคัญคือการมีความรู้ความเข้าใจและศึกษาระเบียบข้อบังคับที่มีค่อนข้างมากให้กระจ่าง ส่วนที่มีคนมองว่าตนเป็น สว.สีน้ำเงินนั้น ตนสีน้ำเงินเข้ม เพราะมาจากทหาร ศรัทธาในสถาบันพระมหากษัตริย์
“ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แดง ขาว น้ำเงินแถบใหญ่มาก ตรงกลางสำคัญมาก” พล.อ.เกรียงไกร กล่าว
นายบุญส่ง น้อยโสภณ สว. กลุ่ม 2 กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม อดีตที่ปรึกษารองประธานวุฒิสภาและอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวถูกวางตัวเป็นประธานหรือรองประธานวุฒิสภาว่า “พร้อมครับ” เพราะมีส่วนในการให้ความเห็นในการร่างกฎหมายต่าง ๆ รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาก่อน โดยผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาหรือรองประธานวุฒิสภาต้องแม่นข้อบังคับ เพราะตีความได้ยาก ดังนั้นประธานต้องเก่งและประนีประนอมได้ อย่าตัดบทในขณะที่สมาชิกอภิปราย ไม่เช่นนั้นจะทะเลาะกัน ซึ่ง สว.มาจากหลากหลายกลุ่มการควบคุมก็จะยากขึ้น
โดยยืนยันว่าจะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาตามที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสว.เขียนเอาไว้ ชัดเจนถึงอำนาจหน้าที่ นอกจากนี้ส่วนตัวจะยึดหลักของความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ มีความซื่อสัตย์ สุจริตในการทำหน้าที่รวมถึงรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย เป็นกลาง เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก
ขณะที่ พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง สว.กลุ่ม 2 กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม อดีตเลขานุการประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดินกล่าวว่า หลายท่านก็มีความพร้อมทั้งเรื่องคุณวุฒิและวัยวุฒิ แต่หลังจากวันนี้ไปคงต้องมีการพูดคุยกัน เพื่อสรรหาคนที่มีความรู้ความสามารถ คนที่จะเป็นประธานวุฒิสภาให้เป็นไปอย่างราบรื่น และให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ
พล.ต.ต.อังกูร ยอมรับว่ามีคนที่เล็งไว้ในใจ แต่ต้องให้แต่ละคนออกมาแสดงวิสัยทัศน์ของตัวเองก่อน ในการที่จะมาทำงานร่วมกันและขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความถูกต้องเรียบร้อย โดยถือประเทศชาติเป็นหลัก แต่ประเทศชาติหรือสมาชิกวุฒิสภาจะอยู่ได้ก็ขึ้นอยู่กับประธานวุฒิสภา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ค. 67)
Tags: บุญส่ง น้อยโสภณ, เกรียงไกร ศรีรักษ์