เปิดเช็คสิทธิเงินหมื่นเฟส 2 วันแรก! คลัง ยันจ่าย-จบภายในวันเดียว 27 ม.ค.

ข่าวเศรษฐกิจ12:46น.2025-01-22

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันแรกที่รัฐบาลเปิดให้ประชาชนเข้าไปตรวจสอบสิทธิ ผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” เพื่อเข้าร่วมโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการแจกเงิน 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งได้เริ่มมีประชาชนเข้ามาตรวจสอบสิทธิแล้วตั้งแต่ช่วงเช้า พร้อมกันนี้ ได้เปิดช่องทางผ่านสายด่วน 1111 สำหรับร้องเรียนปัญหาในการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วย

พร้อมย้ำว่า จะโอนเงินให้กับผู้ได้รับสิทธิทั้ง 30.2 ล้านคน ครบทั้งหมดภายในวันที่ 27 ม.ค. วันเดียว

“กระบวนการโอนเงิน จะเดินหน้าในวันที่ 27 ม.ค. น่าจะใช้เวลาเสร็จสิ้นในวันเดียว เพราะมียอดเพียง 3 ล้านกว่าคน” นายจุลพันธ์ ระบุ

ทั้งนี้ เชื่อว่า โครงการแจกเงิน 10,000 บาท ในเฟส 2 ซึ่งคาดว่าจะใช้เมดเงินราว 3 หมื่นล้านบาทนั้น ช่วยส่งโมเมนตัมที่ดีให้กับระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นปีนี้ ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการตั้งแต่โครงการเติมเงิน 10,000 บาท เฟส 1 วงเงิน 1.4 แสนล้านบาท และมีโครงการช่วยเหลือเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท ประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท รวมถึงโครงการ Easy E-Receipt ก็ได้รับผลตอบรับที่ดี และเมื่อเข้าถึงไตรมาส 2 ก็จะมีโครงการเติมเงิน 10,000 บาท เฟส 3 อีก 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นการส่งโมเมนตัมในการหมุนเวียนเศรษฐกิจ

ส่วนการเปิดลงทะเบียนกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนนั้น รมช.คลัง ยืนยันว่า จะมีการเปิดให้ลงทะเบียนแน่นอน ขณะนี้อยู่ระหว่างการหากลไกในตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่าเป็นกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนจริง ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือนนี้

นายจุลพันธ์ กล่าวถึงโครงการ Easy E-Receipt ว่า มีความคึกคัก ซึ่งจากความต่อเนื่องของการเดินหน้าโครงการมาแล้ว 2 ครั้ง ทำให้การจับจ่ายใช้สอยเกิดขึ้นได้เร็ว โดยครั้งนี้ที่มีสินค้าในกลุ่ม OTOP, SME และวิสาหกิจชุมชน ส่งผลให้มีพื้นที่ทางการตลาดเพิ่มขึ้นในสินค้ากลุ่มนี้ได้เข้าไปจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์การค้า เป็นการเปิดช่องทางการจำหน่ายให้กว้างขึ้น

“ทำให้ประชาชนสามารถเข้าไปเลือกซื้อสินค้า และสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ จะส่งผลให้ยอดขายในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น และเกิดการพัฒนาคุณภาพสินค้าสามารถแข่งขันได้ในอนาคต โดยเชื่อว่า จะช่วยสร้างเม็ดเงินจากโครงการนี้ไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นล้านบาทในปีนี้” รมช.คลัง กล่าว

พร้อมระบุว่า สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt ในปีนี้นั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า กรมสรรพากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการประชาสัมพันธ์ และหารือกับร้านค้าในแต่ละประเภทแล้ว ทำให้ปีนี้มีร้านค้าเพิ่มเข้ามาไม่ต่ำกว่า 15-20% จากปีก่อน

“ปีนี้ มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการทั้งหมดประมาณ 12,000 ร้านค้า แต่เราก็ต้องพัฒนาเพื่อให้ร้านค้าเข้ามาให้มากที่สุด อย่างไรก็ดี รัฐบาลไม่สามารถจะไปบังคับได้ และขึ้นอยู่ความต่อเนื่องในการเดินหน้าของนโยบายนี้ด้วย” รมช.คลัง กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ม.ค. 68)

Tags: จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์, ดิจิทัลวอลเล็ต, เงินดิจิทัล