เปิดนโยบายประธานหอการค้าฯ คนใหม่ “Unlocking New Growth” วางรากฐานศก.ไทย

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยคนใหม่ แถลงนโยบายภายหลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ “Unlocking New Growth : ศักยภาพใหม่แห่งการเติบโต” โดยระบุว่า ปี 2568 เป็นปีแห่งความท้าทาย ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และภูมิรัฐศาสตร์ การเข้ามารับตำแหน่งประธานหอการค้าไทยในปีนี้ ถือเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องใช้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยต้องพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง และต้อง Transform ธุรกิจผ่าน 4 แนวทางหลัก ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่น ขยายโอกาสทางธุรกิจ และเสริมศักยภาพให้เศรษฐกิจไทย ดังนี้

1. Build Business Confidence & Strengthen Trade & Investment in Global Supply Chains เสริมความเชื่อมั่นทางธุรกิจ และขับเคลื่อนการค้า การลงทุนของไทย สอดคล้องกับซัพพลายเชนโลก เนื่องจากเศรษฐกิจไทยเผชิญกับความผันผวนอย่างรุนแรงของภูมิรัฐศาสตร์ และสงครามการค้า (ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ ต้นทุนดำเนินธุรกิจที่สูง และการแข่งขันที่เข้มข้นในห่วงโซ่อุปสงค์และอุปทานโลก)

ซึ่งปัจจุบัน ความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ส่งผลโดยตรงต่อการค้า การลงทุน และอุตสาหกรรมของไทย เราจำเป็นต้องมีแนวทางที่ชัดเจนในการรับมือ โดยที่ผ่านมาหอการค้าไทยจะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน ผ่านแนวคิด “Team Thailand+” เพื่อสร้างความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพในการเผชิญกับความท้าทายระดับโลก

  • การตั้งกลไกความร่วมมือไทย-จีน และความร่วมมือกับประเทศอื่น เช่น ไทย-US, ไทย-EU, ไทย-ญี่ปุ่น เป็นต้น และ Special Team กับภาครัฐ เพื่อจับตาการค้าโลก และแสวงหาโอกาสให้ประเทศไทย รวมถึงผลักดัน FTA และความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศคู่ค้า เพื่อขยายโอกาสทางการค้าให้กับภาคธุรกิจไทย

  • การสร้างแนวทางรับมือความเสี่ยงที่เกิดจากนโยบายกีดกันทางการค้า และการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานโลก ยกตัวอย่างเช่น ศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร หรือ ศูนย์ AFC (Agriculture and Food Coordination and Public Relations Center) ที่เราได้นำร่องแล้ว เพื่อให้เกิดการสื่อสารและแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาดและราคาตกต่ำอย่างทันท่วงที

  • การสนับสนุนการลงทุนของไทยในต่างประเทศ และดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ผ่านนโยบายที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ รวมทั้งเพิ่มการส่งเสริมให้ธุรกิจเดิมที่เคยได้รับการส่งเสริมแล้วให้ได้รับการสนับสนุนต่อ หากมีการปรับปรุงหรือลงทุนเพิ่ม โดยทำงานร่วมกับภาครัฐ เช่น BOI เป็นต้น

2. Business Transformation: Innovation, Digital, AI, Robot, IoT & ESG Integration เร่งการเปลี่ยนผ่านทางธุรกิจ และเศรษฐกิจยั่งยืน โดยเฉพาะภาคธุรกิจไทยที่ยังขาดความพร้อมในการปรับใช้เทคโนโลยีและแนวทาง ESG เพื่อตอบโจทย์เศรษฐกิจในอนาคต หอการค้าฯ จึงมุ่งผลักดัน Digital Transformation ในทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะ AI, Robot,, IoT และ Automation รวมถึงสนับสนุนโมเดลธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วย ESG เช่น Circular Economy และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสตาร์ทอัพและองค์กรขนาดใหญ่ เพื่อสร้างนวัตกรรมและโมเดลธุรกิจแห่งอนาคต

เราจึงปรับโครงสร้างหอการค้าไทยให้ทันสมัยและตอบโจทย์เศรษฐกิจใหม่เพื่อให้หอการค้าไทยสามารถเป็นผู้นำในการผลักดันเศรษฐกิจและธุรกิจไทยในยุคเปลี่ยนผ่าน โดยหอการค้าฯ ได้กำหนด 5 เสาหลัก ในการดำเนินงาน จากเดิมที่มี 3 เสาหลัก เพิ่มเติมอีก 2 เสาหลัก ได้แก่

  1. การค้าและการลงทุน สนับสนุนให้ธุรกิจไทยขยายตลาดและการลงทุน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก

  2. เกษตรและอาหาร ผลักดัน เกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming), Future Food, Halal และการใช้เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมอาหาร และพร้อมที่จะเป็น Foods hub ของโลก

  3. ท่องเที่ยวและบริการ ยกระดับธุรกิจท่องเที่ยวด้วย การท่องเที่ยวคุณภาพสูง เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ

  4. AI, Robot, Digital Technology และ Innovation ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในภาคธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และสนับสนุน Startup & Deep Tech เป็นต้น

  5. Sustainability ผลักดันให้ภาคธุรกิจไทยก้าวสู่ Net Zero Economy ด้วยการนำหลัก ESG มาใช้เป็นมาตรฐาน

3. Talent Development ยกระดับศักยภาพคนไทยและสร้างเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพ เตรียมพร้อมสู่การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ต้องการแรงงานที่มีทักษะแห่งอนาคต ซึ่งสิ่งสำคัญคือการ Reskill & Upskill คนไทย ให้พร้อมสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัลและอุตสาหกรรมใหม่ เราต้องเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการและ SMEs ผ่านการฝึกอบรม AI, Digital Marketing, และ E-commerce การพัฒนาเครือข่าย Talent Ecosystem (ระบบนิเวศที่เชื่อมโยงทุกองค์ประกอบด้านการพัฒนาบุคลากร) โดยความร่วมมือของสถาบันการศึกษา ภาครัฐ และเอกชน

ในส่วนของภายในองค์กร เราจะมีการปรับโครงสร้างคณะกรรมการ และทีมงานหอการค้าไทย พร้อมเสริม Talent คนรุ่นใหม่ เข้ามาช่วยขับเคลื่อนองค์กร พร้อมกันนี้ การพัฒนาหน้าที่ “ความเป็นพลเมือง” จะช่วยเสริมสร้างสังคมที่มีความรับผิดชอบร่วมกัน มีการดูแลเอาใจใส่ในส่วนรวม และมีความเป็นธรรม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า ถ้าเราพัฒนา “คน” ได้ ธุรกิจไทยจะปรับตัวและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

4. Empowering SMEs & Strengthening Public-Private Partnerships ส่งเสริมสมาชิกเครือข่ายหอการค้าฯ, SMEs ให้เข้มแข็ง และเสริมสร้างความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน โดยเฉพาะเครือข่ายนานาชาติ

ปัจจุบัน SMEs ไทยเผชิญกับปัญหาอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอ ต้นทุนที่สูง และข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งทุน ในขณะที่ SMEs คือกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจไทย หากเราสนับสนุนได้ตรงจุด ประเทศจะเติบโตอย่างมั่นคง

  • สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสมาชิกเครือข่ายหอการค้าไทย และ SMEs

  • ผลักดันมาตรการช่วยเหลือสมาชิกเครือข่าย และ SMEs เช่น สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และการลดภาษี

  • สร้างเครือข่ายการค้าและจับคู่ธุรกิจ ผ่านความร่วมมือระหว่างหอการค้าไทย ภาครัฐ และภาคเอกชน

  • ผลักดันภาครัฐให้มีนโยบายที่สนับสนุนสมาชิกเครือข่าย และ SMEs อย่างเป็นรูปธรรม

  • ใช้พลังของภาครัฐ-เอกชนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรม

นายพจน์ กล่าวว่า ทั้งหมดนี้เป็น 4 แผนหลัก เพื่อเราจะ Ready for Future Transformation นอกจากนั้น เรายังมีเครือข่ายหอการค้าฯ ที่เป็นจุดแข็งสำคัญในการสร้างความร่วมมือ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและทั่วถึง ซึ่งประกอบด้วย

  • หอการค้าจังหวัด : เป็นกลไกหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น และส่งเสริมโครงการที่สอดคล้องกับศักยภาพของแต่ละจังหวัด

  • สมาคมการค้า : เป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมต่างๆ ในการร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากฎระเบียบและนโยบายที่เอื้อต่อธุรกิจ

  • หอการค้าต่างประเทศ : เป็นสะพานเชื่อมโยงโอกาสการค้าและการลงทุนระหว่างประเท

  • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย : เป็นศูนย์กลางองค์ความรู้และการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ภาคธุรกิจ

“การดำเนินงานของหอการค้าไทยในปีนี้ จะมุ่งเน้น “Unlocking New Growth” โดยใช้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้ก้าวหน้า แข่งขันได้ และเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้การดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยการทำงานของเราจะไม่ใช่แค่การเผชิญหน้ากับปัญหาในปัจจุบัน แต่ยังเป็นการวางรากฐานเพื่ออนาคตที่มั่นคงของเศรษฐกิจไทย ประเทศไทยต้อง “พร้อมสำหรับอนาคต” ขอเชิญชวนเครือข่ายหอการค้าไทย และทุกภาคส่วน มาร่วมมือกันในการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับภาคธุรกิจไทย เพราะอนาคตของประเทศ ต้องขับเคลื่อนจากพวกเราทุกคน”

ประธานกรรมการหอการค้าไทย ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 มี.ค. 68)

Tags: , ,