“เบิร์กเชียร์” ของบัฟเฟตต์เข้าซื้อ 3 หุ้นสร้างบ้าน แม้ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ เข้าลงทุนในหุ้นกิจการสร้างบ้าน ได้แก่ ดีอาร์ ฮอร์ตัน (DR Horton), เลนนาร์ (Lennar) และเอ็นวีอาร์ (NVR)

ตามรายงานการลงทุนของเบิร์กเชียร์ที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.ระบุว่า เบิร์กเชียร์ถือหุ้นดีอาร์ ฮอร์ตันประมาณ 5.97 ล้านหุ้น มูลค่า 726.4 ล้านดอลลาร์, หุ้นเลนนาร์ประมาณ 153,000 หุ้น มูลค่า 17.2 ล้านดอลลาร์ และหุ้นเอ็นวีอาร์ 11,112 หุ้น มูลค่า 70.6 ล้านดอลลาร์

การลงทุนดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายและอัตราเงินกู้สำหรับซื้อบ้านพุ่งสูงขึ้น ซึ่งส่งผลเชิงลบกับหุ้นที่ทำธุรกิจสร้างบ้านและตกแต่งบ้านในพอร์ตของเบิร์กเชียร์ เช่น เคลย์ตัน โฮมส์ (Clayton Homes), กิจการสีทาบ้าน เบนจามิน มัวร์ (Benjamin Moore) และธุรกิจขายฉนวนกันความร้อน จอห์น แมนวิลล์ (Johns Manville)

อย่างไรก็ดี กลุ่มหุ้นดังกล่าวได้รับปัจจัยบวกจากจำนวนการก่อสร้างบ้านใหม่ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบ้านที่สร้างเสร็จพร้อมจำหน่ายในตลาดในขณะนี้มีจำนวนน้อย

อนึ่ง ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการลงทุนดังกล่าวมาจากนายบัฟเฟตต์เองหรือเป็นฝีมือของนายทอดด์ คอมบ์ส และนายเทด เวสชเลอร์ สองผู้จัดการพอร์ตการลงทุนประจำเบิร์กเชียร์ ทั้งนี้ นักลงทุนมักติดตามข่าวการลงทุนของเบิร์กเชียร์และซื้อ-ขายหุ้นเลียนแบบนายบัฟเฟตต์ เนื่องจากนายบัฟเฟตต์ได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีสุดยอดเซียนหุ้นระดับโลก

หลังจากที่มีการเปิดเผยรายงานดังกล่าว หุ้นดีอาร์ ฮอร์ตัน พุ่งขึ้น 2.8% และหุ้นเลนนาร์ พุ่ง 2% ในช่วงการซื้อขายหลังปิดตลาด อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเอ็นวีอาร์แทบไม่ขยับ เนื่องจากการซื้อขายอยู่ที่ราคาเกิน 6,000 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่งผลให้มีปริมาณการเทรดน้อย

แม้จะมีการลงทุนในหุ้นใหม่ ๆ แต่เบิร์กเชียร์กลับมีการขายหุ้นออกไปมากกว่าจะซื้อเข้ามาในไตรมาสนี้ รวมถึงการขายหุ้น 45% ในบริษัท General Motors ส่งผลให้ราคาร่วงลง 1% ในช่วงหลังปิดตลาด

สำหรับหุ้นอื่น ๆ ที่มีการเปิดเผยในรายงานประจำไตรมาส 2/2566 นั้น เบิร์กเชียร์เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นแคปิตอล วัน (Capital One), ขายหุ้นออกบางส่วนในเซลานีส (Celanese) และโกลบ ไลฟ์ (Globe Life) และขายหุ้นทิ้งทั้งหมดใน มาร์ช & แมคเลนแนน (Marsh & McLennan), แมคเคสสัน (McKesson) และ วิเทสส์ เอเนอร์จี (Vitesse Energy)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 66)

Tags: