นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ครั้งที่ 2/2567 โดยมีการหารือถึงสถานการณ์ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ที่พบว่ามีกลุ่มผู้เสพเป็นเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ซึ่งจากการลงพื้นที่ติดตามการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าด้วยตนเอง พบว่ารูปแบบของบุหรี่ไฟฟ้า มีลักษณะดึงดูดกลุ่มเด็กและเยาวชน ทั้งรูปลักษณ์ที่เป็นลายการ์ตูน สีสันสดใส มีการดัดแปลงกลิ่นผลไม้หลากหลาย ขณะที่มีการวางจำหน่ายในที่ชุมชน หาซื้อได้ง่าย และยังพบว่ามีการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์เป็นจำนวนมาก
ดังนั้น จึงได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เร่งดำเนินการตรวจสอบ และหารือที่ประชุมเพื่อหาแนวทางการป้องกันการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน
“นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้กำจัดและป้องกันการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน เพราะจะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางสมอง และระบบทางเดินหายใจ ยิ่งปัจจุบัน หาซื้อได้ง่ายผ่านออนไลน์หลายแพลตฟอร์ม จึงได้หารือกับ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะเร่งปิดช่องทางการลักลอบค้าบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ ที่ตรวจสอบเบื้องต้นได้ประมาณ 1,300 บัญชีจากทุกแพลตฟอร์ม ขณะเดียวกัน จะลงพื้นที่เชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้เด็กและเยาวชนตกเป็นเหยื่อของบุหรี่ไฟฟ้าต่อไป” นางพวงเพ็ชร กล่าว
ปัจจุบัน “บุหรี่ไฟฟ้า” ถือเป็นสินค้าผิดกฎหมายในประเทศไทย โดยมีกฎหมายควบคุม ประกอบด้วย
1. ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่ และบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า เป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร
2. คำสั่งของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า”
3. พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 มาตรา 4 เพราะน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีนิโคตินเป็นส่วนประกอบ หากสูบในพื้นที่ห้ามสูบตามกฎหมาย ตามมาตรา 67 จะมีฐานความผิดการห้ามสูบในที่สาธารณะ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.พ. 67)
Tags: บุหรี่ไฟฟ้า, พวงเพ็ชร ชุนละเอียด