“เดคัส” จ่อนั่งปธ. Seven & i แทน “อิซากะ” ต้านดีลเทคโอเวอร์จาก Couche-Tard

เซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้งส์ (Seven & i Holdings) เตรียมแต่งตั้งสตีเฟน เฮย์ส เดคัส กรรมการอิสระระดับสูง ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานบริษัท แทนริวอิจิ อิซากะ ที่จะลาออก ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางข้อเสนอซื้อกิจการมูลค่า 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์จากบริษัทอาลีมองตาซิยง คูช-ตาร์ (Alimentation Couche-Tard) ของแคนาดา

แหล่งข่าววงในเปิดเผยกับสำนักข่าวนิกเกอิ เอเชีย (Nikkei Asia) ในวันนี้ (3 มี.ค.) ว่า การแต่งตั้งดังกล่าวจะได้รับการพิจารณาอย่างเป็นทางการในการประชุมคณะกรรมการบริษัทเร็ว ๆ นี้

เดคัสจะกลายเป็นประธานคนแรกที่ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่นของเครือบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ที่บริหารเครือข่ายเซเว่น อีเลฟเว่น (7-Eleven) ทั่วโลกแห่งนี้ โดยภายใต้การนำของเดคัส บริษัทวางแผนเร่งกลยุทธ์การเติบโตของธุรกิจร้านสะดวกซื้อด้วยตนเอง พร้อมต่อต้านข้อเสนอซื้อกิจการจากคูช-ตาร์

เดคัส วัย 64 ปี เข้ารับตำแหน่งกรรมการอิสระของเซเว่น แอนด์ ไอ ในปี 2565 และดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริษัทตั้งแต่ปี 2567 เขามีประสบการณ์ในตำแหน่งผู้บริหารที่ฟาสต์ รีเทลลิ่ง (Fast Retailing) บริษัทแม่ของยูนิโคล่ (Uniqlo) และวอลมาร์ท (Walmart) รวมถึงเคยเป็นซีอีโอของเซยู (Seiyu) ซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่นในเครือวอลมาร์ทในขณะนั้นอีกด้วย

ด้านอิซากะ ประธานคนปัจจุบันที่ดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2559 มีกำหนดเข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษหลังจากพ้นจากตำแหน่ง เขาเป็นผู้ปรับทิศทางให้เซเว่น แอนด์ ไอ หันมาโฟกัสที่ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ นอกจากนี้ อิซากะยังเป็นตัวตั้งตัวตีในการซื้อกิจการสปีดเวย์ (Speedway) มูลค่า 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2564 และขายธุรกิจห้างสรรพสินค้าในเครือในปี 2566

เมื่อเดือนต.ค. อิซากะประกาศเป้าหมายเพิ่มยอดขายของเครือเซเว่น แอนด์ ไอ เป็น 30 ล้านล้านเยน (2 แสนล้านดอลลาร์) ภายในปีงบประมาณ 2574 เกือบสองเท่าของยอดขายปี 2566 อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการช่วงเก้าเดือนถึงพ.ย. 2567 กลับซบเซา โดยกำไรจากการดำเนินงานจากร้านสะดวกซื้อต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ลดลง 32% เมื่อเทียบรายปี ส่วนในญี่ปุ่นลดลง 8%

แผนนำบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์ของครอบครัวผู้ก่อตั้ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมาตรการต่อต้านการซื้อกิจการ ก็ล้มเหลวในการจัดหาเงินทุน 8 ล้านล้านเยนที่จำเป็น ส่งผลให้ราคาหุ้นลดลงเหลือประมาณ 2,400 เยน ต่ำกว่าราคาเสนอซื้อที่ 2,740 เยน (18.19 ดอลลาร์) ต่อหุ้นของคูช-ตาร์กว่า 20%

ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารของเซเว่น แอนด์ ไอ เชื่อว่า การปรับโครงสร้างผู้บริหารจะช่วยโน้มน้าวคณะกรรมการพิเศษที่กำลังพิจารณาข้อเสนอซื้อกิจการให้ปฏิเสธข้อเสนอของคูช-ตาร์ และสนับสนุนการดำเนินธุรกิจอย่างอิสระต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 มี.ค. 68)

Tags: ,