นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.72 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อยจากปิดวันก่อนที่ระดับ 36.75 บาท/ดอลลาร์
ช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ sideways สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวที่ไร้ทิศทางชัดเจนของดอลลาร์ สหรัฐ รวมถึงราคาทองคำ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดรอลุ้นปัจจัยใหม่เพิ่มเติม โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ และผลการประชุมธนาคาร กลางสหรัฐ (เฟด)
ส่วนปัจจัยในประเทศวันนี้ ตลาดจะรอลุ้นผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยมองว่า กนง. จะคง อัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.50% ด้วยมติไม่เป็นเอกฉันท์ 5-2 และตลาดจะให้ความสนใจมุมมองของ กนง. ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ (จะมี การปรับเปลี่ยนคาดการณ์เศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่) และการส่งสัญญาณต่อแนวโน้มนโยบายการเงิน
นอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว ประเด็นการเมือง เช่น การพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล ก็เป็นอีกปัจจัยที่ตลาดจับตามองเช่นกัน
“หาก กนง. ส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ย หรือเซอร์ไพรส์ตลาด ด้วยการลดดอกเบี้ยลง (มองว่าโอกาสเกิดน้อยมาก) ก็อาจ กดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้ไม่ยาก”
นายพูนระบุ นายพูน มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.60-36.80 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงก่อนตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูล สำคัญฝั่งสหรัฐฯ และผลการประชุม FOMC ของเฟด
ปัจจัยสำคัญ
– เงินเยน อยู่ที่ระดับ 157.11 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 157.20/21 เยน/ดอลลาร์
– เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0738 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0746/0750 ดอลลาร์/ยูโร
– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 36.760 บาท/ดอลลาร์
– จับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพื่อพิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยตลาดส่วนใหญ่ คาดการณ์ว่าวันนี้ กนง.จะมีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.50% ตามเดิม แต่ไม่ใช่มติเอกฉันท์ และต้องจับตาว่ารอบนี้ กนง.จะส่งสัญญาณทิศ ทางดอกเบี้ยอย่างไร รวมถึงจะมีการปรับประมาณการ GDP ตลอดจนทิศทางการส่งออก และเงินเฟ้อ สำหรับปีนี้ และ 68 อย่างไร
– “คลัง” เดินเครื่องบี้ กนง.หั่นดอกเบี้ย ลุ้นเคาะลดอย่างน้อย 0.25% ชี้ระดับ 2.5% ไม่เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจไทย
– รมช.คลัง เปิดเผยว่า กรณีตลาดหุ้นไทยร่วงต่ำสุดในรอบ 4 ปีนั้น ถือเป็นตัวชี้วัดสภาวะทางเศรษฐกิจที่มีความเปราะบาง ซึ่งกระทรวงการคลังพยายามแจ้งมาตลอด ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องออกมาตรการทางการคลัง รวมทั้งโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ออกมาดูแล เศรษฐกิจให้เร็วที่สุด ซึ่งอยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อออกมาตรการดูแลตลาดหุ้นไทยโดยตรงด้วย และที่สำคัญกระทรวง การคลังคาดหวังว่า ในการประชุม กนง. ในวันที่ 12 มิ.ย.67 นี้ จะเห็นมาตรการทางการเงินที่ผ่อนคลายด้วยการลดดอกเบี้ยนโยบายลง เช่นเดียวกัน
– ตลาดเงินและตลาดทุนรวมถึงตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งไทยและทั่วโลกค่อนข้างจะผันผวน เนื่องจากต้องรอความชัดเจนจาก การตัดสินใจของธนาคารกลางหลายชาติ ทั้งของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางยุโรป รวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งจะมี การประชุมของกนง. ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ ท่ามกลางการเฝ้ามองเรื่องการตัดสินใจเกี่ยวกับดอกเบี้ยนโยบายของไทย
– ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา คดียุบพรรคก้าวไกลวันนี้ จับตา 9 ข้อต่อสู้ “ชัยธวัช” หวังยืดเวลาชี้ขาด เปิดทางไต่สวนเพิ่ม เติม ยอมรับพรรคการเมืองอื่นรุมทึ้ง ดูด “งูเห่าสีส้ม” ด้าน “สุทิน” ยอมรับคดีพรรคส้ม เขย่าการเมือง เชื่อไม่ลุกลาม โยนสภาฯเคาะ นิรโทษคดี ม.112 ขณะที่ “วันนอร์” ยังไม่เห็น ปมร้องสอบ “2 สส.” เอี่ยวฮั้วเลือกสว
– ผู้ค้าทองชี้ทิศทาง มิ.ย.ราคาอยู่ในภาวะแกว่งตัว ผู้ประกอบการกว่าครึ่งจะซื้อต่อและมองราคาเริ่มลง ยังอยู่ในช่วง 40,000 บาท
– ผู้แทนการค้าไทยหารือประธานหอการค้ารัสเซีย-ไทย ดึงนักท่องเที่ยวรัสเซียมาไทย 2 ล้านคน คาดว่าสร้างรายได้ 1.3 แสนล้านบาท
– ธนาคารโลกออกรายงาน “แนวโน้มเศรษฐกิจโลก” ระบุว่า เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 2.6% ในปีนี้ โดยได้แรงหนุน จากการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ก่อนหน้านี้ ธนาคารโลกคาดการณ์ในเดือนม.ค.ว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัวเพียง 2.4% ในปีนี้
– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (11 มิ. ย.) ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันนี้ โดยนักลงทุนจับตาข้อมูลดังกล่าวอย่างใกล้ชิดเพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับ แนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันอังคาร (11 มิ.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงิน ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐ และผลการประชุมนโยบายการเงินของ เฟด ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
– คณะกรรมการเฟดเปิดฉากการประชุมนโยบายการเงินแล้วเมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.) และจะแถลงมติการประชุมในวันนี้ (12 มิ.ย.) ตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ เฟดจะเปิดเผยรายงานคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจ รวมทั้งการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด โดยนักลงทุนจับตารายงานเหล่านี้อย่างใกล้ชิดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
– หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านหลักทรัพย์ของธนาคารเจพีมอร์แกนแสดงความเห็นว่า โอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีน้อยลง หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนพ.ค.ที่แข็งแกร่งเกินคาด และเขาคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวเท่า นั้นในปีนี้ คือในการประชุมเดือนพ.ย.
– FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% ใน การประชุมวันนี้ แต่นักลงทุนคาดว่าเฟดจะเลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ออกไปเป็นเดือนพ.ย. จากเดิมที่คาดว่าจะเป็น เดือนก.ย.
– นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานจะเพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือนเม.ย. และคาดว่า ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.6% ใน เดือนเม.ย.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มิ.ย. 67)
Tags: ค่าเงินบาท, อัตราแลกเปลี่ยน, เงินบาท