เงินบาทเปิด 35.25 อ่อนค่าจากสัปดาห์ก่อน จับตาความชัดเจนจัดตั้งรัฐบาล-ทิศทาง Flow

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 35.25 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากระดับปิดสัปดาหก่อนที่ระดับ 35.07 บาทต่อดอลลาร์

โดยตั้งแต่ช่วงคืนวันศุกร์ของสัปดาห์ก่อน รวมถึงคืนวันจันทร์ เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงต่อเนื่อง จากผลของแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ของเงินดอลลาร์ ตามความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงตลาดผันผวน และการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ตามมุมมองของผู้เล่นใน ตลาดที่เริ่มกลับมามองว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อได้ นอกจากนี้ โฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อ ตัวลงก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงเช่นกัน

ทั้งนี้ แนวโน้มของค่าเงินบาท มองว่าแม้ว่าปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่ายังคงอยู่ แต่โมเมนตัมการอ่อนค่าเริ่มแผ่วลง โดยหากการ จัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจนมากขึ้น เงินบาทก็สามารถกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้ตามฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ

“การจัดตั้งรัฐบาลผสม อาจเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้แรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติอาจเริ่มชะลอลงบ้าง แต่ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติจะยังมีความผันผวนอยู่ จนกว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะเสร็จสิ้น” นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุนระบุ

สัปดาห์นี้ ตลาดรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่นและจีน รวมถึงจับตารายงานการประชุมล่าสุดของ เฟด และติดตามความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลผสมที่นำโดยพรรคเพื่อไทย

นักกลุยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน คาดว่ากรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.15-35.35 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 145.55 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 144.60 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0905 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0975 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 35.126 บาท/ดอลลาร์

– “เพื่อไทย” ยืนยันชงชื่อ ‘เศรษฐา’ ชิงเก้าอี้ “นายกฯ” ไม่เปลี่ยนแปลงมั่นใจเสียงหนุนเกินกึ่งหนึ่ง รอฟัง ‘วันนอร์’ เป็นหลักให้แคนดิเดตนายกฯ เข้าแจงในสภาหรือไม่ ด้าน “วันนอร์” ย้ำรอผลวินิจฉัย “ศาล รธน.” ก่อนถกฝ่ายกฎหมาย-วิป 3 ฝ่าย คาด นัดโหวตนายกฯ 18 หรือ 22 ส.ค.นี้

– ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนได้จับตาสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด เพราะคาดหวังให้การเลือกนายกรัฐมนตรีได้ข้อสรุปโดยเร็วเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้ในเดือน ส.ค.นี้ เพราะ เป็นจุดที่ภาคเอกชนโดยเฉพาะคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้ประเมินและคำนวณความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจไทยที่ อยู่ในจุดที่รับได้และหากล่าช้าออกไปจากนี้ก็หมายถึงความเสียหายต่อเศรษฐกิจที่จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ

– “บล.เอเซียพลัส” เชื่อต่างชาติพร้อมลงทุนหุ้นไทย หลัง “ถือครองหุ้นไทยต่ำมาก-การเมืองมีทิศทางดีขึ้น-เงินบาทอ่อน ค่า” ชี้หากการเมืองราบรื่นดันดัชนีแตะ 1,610 จุด “บล.หยวนต้า” เชื่อแรงซื้อชะลอดู ผลพิจารณาศาลรธน. 16 ส.ค.”บล.ซีจีเอส-ซีไอ เอ็มบี” ชี้ต่างชาติปรับพอร์ต เข้าซื้อหุ้นพลังงาน เหตุแนวโน้มราคาปรับขึ้น

– จับตา “ไทยบีเอ็มเอ” เผยยอดหุ้นกู้มีปัญหาปัจจุบัน 3.69 หมื่นล้าน ทรงตัวจากช่วงครึ่งปีแรก พบหุ้นกู้ “นอน-อิน เวสต์เมนต์เกรด” ซบเซาต่อเนื่อง นักลงทุนรายใหญ่ชะลอซื้อ เข็ดจากปัญหา “สตาร์ค” จับตาดอกเบี้ยขึ้น หนุนผู้ออกเร่งขาย มีครบ กำหนด 2.8 แสนล้าน ดันทั้งปี ทะลุ 1 ล้านล้าน “ทริสเรทติ้ง” มองภาพใหญ่ไม่มีปัญหา ยังหวั่นโอกาส ยอดออกแผ่วลง เหตุ “นักลงทุน ระมัดระวังดอกเบี้ยขาขึ้น-การเมือง”

– รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (15 ส.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 2/2566 ขยายตัว 6.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวติดต่อกันสามไตรมาส และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ คาดว่าจะขยายตัวเพียง 0.8% โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยชดเชยการฟื้นตัวที่อ่อนแอของภาคบริการ

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (14 ส.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้น ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง ยอดค้าปลีกประจำเดือนก.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ในวันจันทร์ (14 ส.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการ พุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวม ถึงยอดค้าปลีกประจำเดือนก.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

– นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ซึ่งนำโดยนายแจน แฮทซิอุซ คาดการณ์ว่า เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 2 ปีหน้า ส่วนในการประชุมเฟดครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นใน 19-20 ก.ย.นี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ที่ระดับ 5.25-5.50%

– ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเผยผลสำรวจคาดการณ์เงินเฟ้อผู้บริโภคเดือนก.ค. โดยชาวอเมริกันคาดว่าใน ระยะเวลาอีก 1 ปีข้างหน้าเงินเฟ้อจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 3.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2564 ส่วนคาดการณ์เงินเฟ้อ ของผู้บริโภคในระยะเวลา 3 ปี และ 5 ปีข้างหน้า ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.9%

– ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภค ยอดค้าปลีก ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน การ ผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. ผลสำรวจภาคการผลิตจากเฟดสาขานิวยอร์กและสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนส.ค. บันทึกการประชุมเฟดเมื่อ วันที่ 25-26 ก.ค.และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

– ตลาดยังจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค. โดยการประชุมปีนี้จัดขึ้น ในหัวข้อ “Structural Shifts in the Global Economy” ขณะที่นักลงทุนคาดหวังว่านายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะส่ง สัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 66)

Tags: , ,