เงินบาทเปิด 34.58 จับตาสถานการณ์แบงก์ในยุโรป-รอผลประชุม ECB

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.58 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวาน ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.62 บาท/ดอลลาร์

เงินบาททรงตัวจากท้ายตลาด ด้านสกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสม ตลาดจับตาสถานการณ์ธนาคารทั้งในยุโรป และ สหรัฐฯ โดยวานนี้บอนด์ยีลด์ของยุโรป และสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงแรง ทำให้ตลาดระมัดระวัง ในส่วนของเงินบาทได้ปัจจัยหนุนจากการที่ ราคาทองคำสูงขึ้น จึงอาจมี Flow จากผู้ค้าทองในประเทศหนุน

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.45-34.65 บาท/ดอลลาร์ คืนนี้ตลาดรอติดตามผลการประชุม ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่วนสัปดาห์หน้ารอติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

THAI BAHT FIX 3M (15 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.17389% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.22924%

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 133.10 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 134.20 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0596 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0680 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.513 บาท/ดอลลาร์

– “คลัง” ยังเกาะติดแบงก์สหรัฐฯ ล้ม “อาคม” เผยมีผู้ประกอบการไทยลงทุนในคริปโท ด้าน สนค.ชี้แบงก์สหรัฐฯ ล้มผู้ส่ง ออกไทยได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทอ่อนค่าแต่คาดแค่ระยะสั้น

– ภาคเอกชนเห็นว่าเงินบาทมีโอกาสผันผวนในระยะสั้น ในขณะที่สมาชิกเริ่มกังวลผลกระทบเศรษฐกิจโลกมากขึ้น แต่ถ้าไม่มี การปิดธนาคารในสหรัฐเพิ่มขึ้นอีกจะทำให้ความเชื่อมั่นเริ่มกลับมาดีขึ้น

– “หุ้นไทย” พุ่ง 41 จุด แรงหนุนเงินเฟ้อสหรัฐออกมาตามคาด ส่งผลดี บรรยากาศการลงทุน “นักลงทุนต่างชาติ” กลับมา ซื้อสุทธิ 960.90 ล้าน หลังขาย ติดต่อกัน 18 วันทำการ ด้านกองทุนในประเทศ ซื้อ 1.5 พันล้าน ด้านโบรกแนะจับตาประชุมเฟดสัปดาห์ หน้า เหตุกำหนดทิศทางตลาดหุ้น เตือนระมัดระวังการลงทุนจากมีปัจจัยความไม่แน่นอนสูง

– นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ระยะสั้นราคาทองปรับขึ้นมาสูงพอสมควรแล้ว แต่ยังไม่แตะระดับสูงสุดเป็น ประวัติการณ์ เมื่อเทียบกับช่วงสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน เมื่อเดือนมี.ค. 2565 ซึ่งครั้งนั้นมีผลให้ราคาทองคำแท่งปรับขึ้นไป ทำสถิติสูงสุดใหม่ ขายออกที่ 32,100 บาท/บาททองคำ

– ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออสสิริส จำกัด ผู้นำเข้า ผลิต และจัดจำหน่ายทองคำ เปิดเผยว่า ปีนี้คาดว่าราคา ทองคำยังคงผันผวนโดยมีโอกาสค่อยๆ ไต่ขึ้นไปที่ราคาสูงสุดที่บาทละ 32,000 บาท หากในวันที่ 21-22 มี.ค. นี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นั่นหมายความว่าปัญหาการปิดกิจการของ 3 ธนาคารในสหรัฐเป็นปัญหาใหญ่ซึ่งทำให้เงินดอลลาร์อ่อน ราคาทองคำก็จะปรับขึ้น

– เครดิต สวิสซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ เผชิญวิกฤตการณ์ทางการเงินอย่างหนัก โดย ธนาคารขาดทุนสุทธิ 1.4 พันล้านฟรังก์สวิสในไตรมาส 4/2565 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 1.32 พันล้านฟรังก์ ส่งผลให้ยอดขาดทุน ตลอดทั้งปีอยู่ที่ 7.3 พันล้านฟรังก์ นอกจากนี้ ลูกค้าได้แห่ถอนเงินฝากมากกว่า 1.10 แสนล้านฟรังก์ในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นผลมาจากข่าวอื้อ ฉาวเกี่ยวกับการทำผิดกฎระเบียบและความเสี่ยงในการถูกดำเนินคดี

– ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้จัดการประชุมฉุกเฉินร่วมกับธนาคารกลางและหน่วยกำกับดูแลด้านการเงินระหว่าง ประเทศ ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มสูงขึ้น หลังวิกฤตของธนาคารเครดิต สวิส จากสวิตเซอร์แลนด์ทวีความรุนแรง

– กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกลดลง 0.4% ในเดือนก.พ. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 0.3% หลังจาก พุ่งขึ้น 3.2% ในเดือนม.ค.

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (15 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกต่อวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐและ ยุโรป

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ในวันพุธ (15 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อ ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐและยุโรป

– ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐวันนี้ จะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการ อนุญาตก่อสร้างเดือนก.พ., ดัชนีการผลิตเดือนมี.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และราคานำเข้า-ราคาส่งออกเดือนก.พ. และธนาคารกลาง ยุโรป (ECB) มีกำหนดแถลงมติอัตราดอกเบี้ย

– นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ และจะปรับลดอัตรา ดอกเบี้ยรวม 1% ภายในสิ้นปีนี้ หลังพบว่าวิกฤตธนาคารได้ลุกลามจากสหรัฐไปยังยุโรป

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 52.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.50- 4.75% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค. และให้น้ำหนักเพียง 48.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มี.ค. 66)

Tags: ,