นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.29 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 34.19 บาท/ดอลลาร์
โดยตั้งแต่คืนที่ผ่านมา เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงก่อนที่จะแกว่งตัว Sideways ใกล้โซน 34.30 บาท/ดอลลาร์ ได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์รีบาวด์มาแข็งค่า และการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของบอนด์ยีลด์ 10 ปีสหรัฐฯ ท่ามกลางภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินสหรัฐฯ นอกจากนี้ เงินบาทยังเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากการปรับตัวลดลงของราคาทองคำ
แนวโน้มค่าเงินบาทอาจแกว่ง Sideways แถวโซน 34.30 บาท/ดอลลาร์ เพื่อรอปัจจัยใหม่ ๆ เพิ่มเติม โดยคาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวชัดเจนมากขึ้นหลังการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20 ม.ค.68
“ควรระวังความผันผวนในช่วงปริมาณการทำธุรกรรมต่าง ๆ ในตลาดการเงินที่จะเบาบางลงในช่วงใกล้วันหยุดปลายปี ทั้ง Christmas และ New Year หลายตลาดการเงินอาจปิดทำการในวันนี้ หรือเปิดทำการเพียงครึ่งวัน”
นักบริหารเงิน ระบุ
วันนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจอาจมีไม่มากนัก โดยในฝั่งสหรัฐฯ จะมีเพียงยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders) ในเดือนพ.ย. รวมถึงรายงานดัชนีภาวะเศรษฐกิจจากบรรดาเฟดสาขาต่างๆ ซึ่งอาจไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินมากนัก
นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้อยู่ที่ 34.20-34.35 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 157.21 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 156.72 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0401 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0409 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท. อยู่ที่ระดับ 34.260 บาท/ดอลลาร์
- ที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง ชุดที่ 22 มีมติเอกฉันท์เห็นชอบการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2568 โดยให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มในอัตราวันละ 7-55 บาท (เฉลี่ย 2.9%) โดยมีอัตราสูงสุด คือ วันละ 400 บาท และอัตราต่ำสุด คือ วันละ 337 สำหรับจังหวัดที่ได้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท มี 4 จังหวัด และ 1 อำเภอ ได้แก่ จ.ภูเก็ต ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (23 ธ.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ เป็นปัจจัยหนุนให้ดอลลาร์ฟื้นตัว หลังจากที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อวันศุกร์ ภายหลังจากที่สหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.536% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อายุ 30 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.731%
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (23 ธ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ เป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในปีหน้า
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 5.9% สู่ระดับ 664,000 ยูนิตในเดือนพ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 660,000 ยูนิต จากระดับ 627,000 ยูนิตในเดือนต.ค.
- ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับ 104.7 ในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 113.8 จากระดับ 112.8 ในเดือนพ.ย.
- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย., ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนพ.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค., ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
Tags: ค่าเงินบาท, พูน พานิชพิบูลย์