เงินบาทเปิด 33.95/96 อ่อนค่าตามภูมิภาค คาดกรอบวันนี้ 33.80 – 34.10

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.95/96 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิด ตลาดช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.78/79 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทและสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค เคลื่อนไหวในทิศทางที่อ่อนค่า ยกเว้นเงินเยน จากปัจจัยที่ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า เล็กน้อย ทั้งนี้ เมื่อคืนนี้ยังไม่มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ต้องติดตามคืนนี้ คือ ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนก.พ. จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระ แห่งชาติสหรัฐ (NFIB) และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนม.ค.

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 33.80 – 34.10 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ 

– เงินเยน อยู่ที่ระดับ 146.79/83 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 147.33/35 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0854/0855 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0852/0854 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 33.781 บาท/ดอลลาร์

– “บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ” เคาะแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท แก่กลุ่มอายุ 16-20 ปี รวม 2.7 ล้านคน ช่วง ปลายไตรมาส 2 ชี้ช่วยลดภาระผู้ปกครอง ส่วนกลุ่มที่เหลือพร้อมแจกในช่วงที่เหลือของปีนี้ เผยระเบียบกำหนดต้องจ่ายภายในต.ค. เล็ง เปิดลงทะเบียนกลุ่มไม่มีสมาร์ตโฟน

– ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีทีบี ธนาคารทหารไทยธนชาต เปิดเผยว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยมีความ รุนแรงขึ้น ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต โดยยอดหนี้ครัวเรือนไทยไตรมาส 3 ปี 67 อยู่ระดับสูง 16.3 ล้านล้านบาท คิดเป็น 89% ของจีดีพี

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (10 มี.ค.) ขณะเดียวนักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง สหรัฐฯ (เฟด)

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (10 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้น อย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวนักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้

– ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 18-19 มี.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 2 ของเฟดในปีนี้

– กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประ จำเดือนก.พ. ในวันพุธนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับ ตัวขึ้น 2.9% ในเดือนก.พ. จากระดับ 3.0% ในเดือนม.ค.

– สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ปรับลดประมาณการการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตร มาส 4/67 ลงสู่ระดับ 2.2% เมื่อเทียบรายปี จากตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่า GDP ขยายตัว 2.8% เนื่องจากได้มีการปรับลด ประมาณการการใช้จ่ายของผู้บริโภค และสต็อกสินค้าคงคลังของภาคเอกชน

– นักวิเคราะห์เตือนว่า สหรัฐฯ มีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้ โดยได้รับผลกระทบจากความไม่ แน่นอนของการใช้มาตรการตั้งกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ความเสี่ยงของ “Trumpcession” หรือเศรษฐกิจถดถอย จา กนโยบายทรัมป์ ได้เพิ่มขึ้นในระยะนี้ หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ ได้ตัดสินใจระงับการเรียกเก็บภาษีจากสินค้านำเข้าจากแคนาดา และเม็กซิโก เป็นครั้งที่ 2

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 มี.ค. 68)

Tags: , ,