เงินบาทเปิด 33.95 อ่อนค่าต่อเนื่องจากวานนี้ หลังตัวเลขศก.สหรัฐหนุนดอลลาร์แข็งค่า

นักบริหารเงินจาธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.95 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.88 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง และเป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือน ผลจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐออก มาดีกว่าที่ตลาดคาด จึงทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยจากราคาทองคำในตลาดโลกปรับลดลง ราว 20 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งอาจทำให้วันนี้มี flow นำเข้าทองคำจากฝั่งผู้ค้าทองในประเทศได้

สำหรับปัจจัยสำคัญ วันนี้ต้องติดตามการรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ เพราะจะมีผลต่อการคาดการณ์ นโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะเร่งการขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นหรือไม่ หากตัวเลขดังกล่าวออกมาดีเกินคาด ซึ่งจะทำให้บาทอ่อน ค่าทะลุ 34 บาท/ดอลลาร์ได้

นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.85-34.00 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (2 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.23296% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.28507%

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.00 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 113.19 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1297 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1318 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.818 บาท/ดอลลาร์

– ‘บิ๊กตู่’ ยันไม่ปิดประเทศสกัด ‘โอไมครอน’ ระบาด สั่งเร่งติดตาม 252 คนจาก 8 ประเทศแอฟริกาตรวจเชื้อ เตรียม เลื่อนเปิดผับบาร์ คาราโอเกะ ออกไปอีกสักเดือน ขออภัยผู้ประกอบการเพราะจำเป็น ชี้หากไม่ทำจะล้มเหลวทั้งหมด รับปากเยียวยา ให้ ‘พิพัฒน์’ รมว.ท่องเที่ยวฯ ย้ำโอไมครอนไม่กระทบเปิดประเทศ ขณะนี้ยังไม่พบนักท่องเที่ยวยุโรป อเมริกาถอนเดินทางมาไทย เผย เชื้อพันธุ์ใหม่ลามแล้ว 30 ประเทศ ศบค.เผยติดเชื้อรายวัน 4,971 เสียชีวิตอีก 33 ‘รมต.สุชาติ’ ถกศบศ.วันนี้ เคาะเยียวยาคน บันเทิง คนกลางคืนที่เดือดร้อนจากพิษโควิด จ่อรับ 5 พันต่อคน ชงโมเดลช่วยลูกจ้างม.33 อาจได้ 2 ต่อ จากรัฐบาล-สปส.

– คลังยันพร้อมเต็มสูบรับมือ “โอไมครอน” แจงมีงบรออีก 1 ล้านล้านบาท อัดฉีดเข้าระบบเศรษฐกิจ “อาคม” ยันปีหน้าจีดีพี โตแน่ 4% วอนเอกชนใจเย็นหลังเรียกร้องฟื้นช้อปดีมีคืน

– ผู้อำนวยการ กูเกิล ประเทศไทย เปิดเผยว่า กูเกิล ได้ร่วมกับ แอลฟาเบต้า จัดทำรายงานการเปลี่ยนรูปแบบสู่ระบบดิจิ ทัลที่สามารถปลดล็อกมูลค่าทางเศรษฐกิจประเทศไทย พบว่า หากไทยเปลี่ยนรูปแบบสู่ระบบดิจิทัล และนำไปใช้ประโยชน์กับเศรษฐกิจอย่าง เต็มรูปแบบ จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ให้กับไทยได้ถึง 2.5 ล้านล้านบาทต่อปี ภายในปี 73 หรือมีมูลค่าเทียบเท่ากับ 16% ของ จีดีพี ประเทศไทยในปี 63 ที่ผ่านมา

– ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กแถลงยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนจำนวน 5 รายในนครนิวยอร์กซิตี้ โดย ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย

– กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 28,000 ราย สู่ระดับ 222,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย

– ประธานเฟด ระบุว่า อาจปรับลดวงเงิน QE มากกว่าเดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ โดยเฟดจะมีการหารือกันใน การประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 14-15 ธ.ค.นี้

– โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เฟดจะเพิ่มการปรับลดวงเงิน QE เป็นเดือนละ 30,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2 เท่าจาก เดิมเดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ โดยการดำเนินการดังกล่าวจะปูทางให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. 2565 ซึ่งเป็นการปรับ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ที่สหรัฐเผชิญการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2563

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ธ.ค.) หลัง จากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจะปูทางให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ขณะที่นักลงทุนจับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย. ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (2 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากการคาด การณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด นอกจากนี้ กระแสความวิตกกังวลที่เริ่มลดลงเกี่ยวกับ ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนยังทำให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

– นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ย.ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัว เลขจ้างงานจะพุ่งขึ้น 581,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 531,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.

– ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่มีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือน พ.ย.จากมาร์กิต, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนต.ค. และดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ธ.ค. 64)

Tags: , ,