เงินบาทเปิด 33.70 แนวโน้มแข็งค่าตามภูมิภาครับดอลลาร์อ่อนค่าหลังเฟดส่งสัญญาณยุติ QE

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.70 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.73 บาท/ดอลลาร์ ก่อนจะปรับตัวแข็งค่าลงมาอยู่ที่ 33.65 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าหลังประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมายืนยันที่จะเร่งจบมาตรการ QE

ขณะที่ตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ และการที่ตัวเลขส่งออกของเกาหลีใต้ซึ่งเป็นตัวชี้นำทิศทางของตลาดใหม่ออกมาดีเกินคาดหนุนให้เงินในภูมิภาคแข็งค่า

“บาทมีแนวโน้มแข็งค่าตามภูมิภาค และมีความผันผวนสูง เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยที่ชัดเจน”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.55 – 33.75 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (30 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.08201% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.19988%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.20 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 112.88 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1331 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1348 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.719 บาท/ดอลลาร์
  • “สมาคมวินาศภัย” รับกังวล โอไมครอน ระบาด ซ้ำเติมธุรกิจประกัน แนะผู้ประกอบการ ประเมินความเสี่ยงยอดเคลมสินไหมแผนรับมือ บอร์ดคปภ.เตรียมหารือมาตรการดูแลผู้เอาประกันเพิ่มเติม วันนี้หลังเดอะวัน ยังไม่มีความชัดเจนเพิ่มทุน
  • ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า สกนช.ได้ทำหนังสือไปยังสถาบันการเงิน 10 แห่งเพื่อให้เสนอแผนเงินกู้ในการเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันภายใต้กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อดูแลราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร โดยคาดว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จและนำเสนอเข้าสู่การเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้ในเดือน ธ.ค.นี้ และคาดว่าวงเงินจะเริ่มเข้ามาเสริมสภาพคล่องได้ในเดือน เม.ย.2565
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในหลักการในการออกการตรวจลงตราหรือวีซ่าประเภทใหม่ ที่เรียกว่า การตรวจลงตราเพื่อการรักษาพยาบาล ระยะเวลา 1 ปี (Medical Treatment Visa) รหัส Non-M มีผู้ติดตามได้ไม่เกิน 3 ราย จากในปัจจุบันคนกลุ่มนี้ต้องเข้ามาผ่านวีซ่าท่องเที่ยว ซึ่งการตรวจลงตราวีซ่าเพื่อการรักษาพยาบาลประเภทใหม่นี้ จะสอดรับกับระยะเวลาและกระบวนการรักษาพยาบาลในปัจจุบัน โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาลและมีความจำเป็นต้องเข้ารับการดูแลต่อเนื่อง และผู้ติดตามผู้ป่วย
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ และรายงานสถานะหนี้สาธารณะ หนี้ภาครัฐและความเสี่ยงทางการคลัง ณ วันสิ้นปีงบประมาณ 2564 (30 ก.ย.2564) โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะที่เกิดขึ้นจริง ณ 30 ก.ย.2564 ยังคงอยู่ภายใต้กรอบการบริหารหนี้สาธารณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐกำหนด โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) อยู่ที่ 58.15% ไม่เกินกรอบที่กำหนด 70%
  • เอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 19.5% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี แต่ต่ำกว่าระดับ 19.8% ในเดือนส.ค. และเป็นครั้งแรกที่ราคาบ้านได้ชะลอตัวลงเมื่อเทียบรายปีนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2563
  • ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 109.5 ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 111.0 จากระดับ 111.6 ในเดือนต.ค. โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคถูกกดดันจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และการแพร่ระบาดของโควิด-19
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เผยเฟดอาจปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) มากกว่าเดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ โดยเฟดจะมีการหารือกันในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 14-15 ธ.ค.
  • FedWatch Tool ของ CME Group ซึ่งวิเคราะห์การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดมีแนวโน้มเพียง 58.5% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมิ.ย.2565 จากเดิมที่คาดว่ามีแนวโน้มสูงถึง 82.1%
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.)หลังมีกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญาณยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาดไว้
  • นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ย.ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะพุ่งขึ้น 581,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 531,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ธ.ค. 64)

Tags: , ,